นายอาห์น กุก-ฮยอน เจ้าหน้าที่จากบริษัท Daewoo Shipbuilding and Marine Engineering ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้ทำการซ่อมบำรุงเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ของอินโดนีเซียในช่วงปี 2552-2555 กล่าวว่า หากเรือดำน้ำดังกล่าวอยู่ในระดับความลึกมากกว่า 200 เมตร ตัวเรือดำน้ำก็จะฉีกขาด อันเนื่องจากแรงกดดันของน้ำทะเล
ที่ผ่านมา บริษัท Daewoo ได้ทำการปรับปรุงระบบและโครงสร้างภายในของเรือดำน้ำดังกล่าว
ทั่วโลกต่างจับตาปฏิบัติการค้นหาและกู้เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ของอินโดนีเซีย ซึ่งได้สูญหายไปตั้งแต่วันพุธ และขณะนี้เรือดำน้ำดังกล่าวมีออกซิเจนเพียงพอสำหรับลูกเรือจนถึงวันพรุ่งนี้เวลา 03.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งก็ตรงกับเวลาในประเทศไทย
กองทัพเรืออินโดนีเซียได้แจ้งต่อครอบครัวของลูกเรือของเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ว่า พวกเขาไม่ควรตั้งความหวังสูงเกินไปเกี่ยวกับโอกาสรอดชีวิตของลูกเรือดังกล่าว
ทั้งนี้ เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 พร้อมกับลูกเรือจำนวน 53 คน ได้สูญหายไป หลังจากที่ได้ปฏิบัติภารกิจฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโดในทะเลใกล้เกาะบาหลีเมื่อวันพุธ โดยเรือดำน้ำได้ขาดการติดต่อ หลังจากที่ได้รับอนุมัติให้ดำลงไปในทะเลน้ำลึก และคาดกันว่าเรือได้จมลง ขณะอยู่ที่ระดับความลึก 700 เมตร ห่างจากตอนเหนือของเกาะบาหลีราว 60 ไมล์
มีการคาดการณ์กันถึงสาเหตุที่ทำให้เรือดำน้ำดังกล่าวสูญหายไป ซึ่งอาจเกิดจากระบบไฟฟ้าขัดข้อง หรืออาจเกิดการระเบิดดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับเรือดำน้ำ Kursk ของรัสเซียในเดือนส.ค.2543 จนทำให้ลูกเรือทั้งหมด 118 คนต้องจบชีวิตลง
โฆษกกองทัพเรืออินโดนีเซียกล่าวว่า เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานดีเซลสามารถอยู่ได้ที่ระดับความลึก 250-500 เมตร แต่หากเรือดำน้ำจมลงในระดับความลึกที่มากกว่านั้นก็จะเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
"มีความเป็นไปได้ในขณะที่เรือได้ดำดิ่งลง ก็เกิดปัญหาไฟฟ้าดับ จนทำให้ควบคุมเรือไม่ได้ และทำให้เรือจมลงสู่ระดับความลึก 600-700 เมตร" แถลงการณ์ของกองทัพเรือระบุ
พลเรือเอกยูโด มาร์โกโน ผู้บัญชาการกองทัพเรืออินโดนีเซีย กล่าววานนี้ว่า เรือรบลำหนึ่งของอินโดนีเซีย ซึ่งได้เข้าร่วมภารกิจในการค้นหาเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ได้รายงานว่า มีการตรวจพบวัตถุบางอย่างที่ปล่อยสัญญาณคลื่นแม่เหล็กในระดับสูง และอยู่ที่ระดับความลึก 50-100 เมตร
"เราหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402" พลเรือเอกมาร์โกโนกล่าว
นอกจากนี้ พลเรือเอกมาร์โกโนกล่าวเสริมว่า ขณะนี้กองทัพเรือได้ส่งเรือรบอีกลำหนึ่งที่มีเครื่องตรวจจับคลื่นโซนาร์ และอุปกรณ์ที่สามารถควบคุมได้ในระยะไกล เข้าสำรวจในบริเวณดังกล่าวแล้ว
ขณะเดียวกัน กองทัพอินโดนีเซียเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวใต้น้ำ ซึ่งมีความเร็ว 2.5 น็อตใกล้กับจุดที่เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ปฏิบัติภารกิจ แต่ต่อมาสัญญาณก็ขาดหายไป จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำ
นอกจากนี้ การที่เจ้าหน้าที่พบคราบน้ำมันในทะเลใกล้เกาะบาหลี ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นน้ำมันจากเรือดำน้ำดังกล่าว
ขณะนี้มีหลายประเทศได้เสนอความช่วยเหลือต่อรัฐบาลอินโดนีเซียแล้ว ซึ่งได้แก่ สหรัฐ รัสเซีย เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย อินเดีย ตุรกี ขณะที่คาดว่าเรือ MV Swift Rescue ซึ่งเป็นเรือในภารกิจกู้เรือดำน้ำของกองทัพเรือสิงคโปร์ จะเดินทางมาถึงบริเวณน่านน้ำเกาะบาหลีในวันพรุ่งนี้ ส่วนเรือ Rescue Mega Bakti Malaysia ของกองทัพเรือมาเลเซียจะเดินทางมาถึงในวันจันทร์
ทั้งนี้ เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 มีความยาว 60 เมตร พร้อมกับความเร็ว 21.5 น็อต โดยถูกสร้างขึ้นที่เยอรมนีในปี 2524
ขณะนี้ กองทัพเรืออินโดนีเซียมีเรือดำน้ำจำนวน 5 ลำ โดย 2 ลำสร้างจากเยอรมนี และอีก 3 ลำสร้างจากเกาหลีใต้