ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐวางแผนรับมือกับการคุกคามของเกาหลีเหนือและอิหร่าน ด้วยการเจรจาและการป้องปรามอย่างเข้มงวดร่วมกับชาติพันธมิตร
ปธน.ไบเดนแถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ว่า โครงการนิวเคลียร์ของรัฐบาลเกาหลีเหนือและรัฐบาลอิหร่านถือเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของสหรัฐและประชาคมโลก
"เราจะร่วมมือกับชาติพันธมิตรอย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือภัยคุกคามจากสองประเทศนี้ด้วยการเจรจาและการป้องปรามอย่างเข้มงวด" ปธน.ไบเดนกล่าว ทั้งนี้ในงานแถลงการณ์มีวุฒิสมาชิกและส.ส.เข้าร่วมเพียง 20% จากทั้งหมด เพื่อเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม
ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐอยู่ระหว่างการทบทวนการดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ โดยระบุว่าจะมีการเสนอแนวทางใหม่ในการรับมือกับเกาหลีเหนือที่ไม่ให้ความร่วมมือ
ปธน.ไบเดนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกับชาติพันธมิตรในการจัดการกับอุปสรรคที่สหรัฐต้องเผชิญ
"ประชาชนชาวอเมริกันทุกท่าน สหรัฐต้องแสดงให้เห็นว่าเราไม่เพียงแต่กลับมาสู่เวทีโลกแล้ว แต่จะยังยืนหยัดต่อไปด้วย และเราจะไม่แบกรับบทบาทผู้นำเพียงผู้เดียว แต่จะก้าวไปพร้อมๆ กับชาติพันธมิตรของเรา" และ "ไม่มีชาติใดจะสามารถรับมือกับวิกฤติการณ์ในปัจจุบันได้โดยลำพัง ไม่ว่าจะเป็นภัยก่อการร้าย, การพัฒนาโครงการนิวเคลียร์, การอพยพย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่, ภัยความมั่นคงทางไซเบอร์, การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ รวมถึงวิกฤติครั้งล่าสุดที่เรากำลังเผชิญอยู่ ซึ่งก็คือโรคระบาดที่แพร่กระจายไปทั่วโลก" ปธน.ไบเดนกล่าว
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนจะพบปะกับประธานาธิบดีมูน แจ อินของเกาหลีใต้ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในเดือนพ.ค.