องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยในวันศุกร์ (30 เม.ย.) ว่า WHO ได้เพิ่มวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นาเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินแล้ว โดยนับเป็นวัคซีนตัวที่ 5 ที่ WHO อนุมัติให้ใช้ได้ในกรณีฉุกเฉิน
ในเดือนธ.ค. 2563 องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติใช้วัคซีนของโมเดอร์นาเป็นกรณีฉุกเฉิน ขณะที่องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ได้อนุมัติให้จำหน่ายวัคซีนของโมเดอร์นาได้ทั่วสหภาพยุโรป (EU) ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
กลุ่มที่ปรึกษากลยุทธ์ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างภูมิคุ้มกัน (SAGE) ของ WHO ซึ่งจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้วัคซีนกับประชาชนนั้น ได้ทำการทบทวนเกี่ยวกับวัคซีนโควิดของโมเดอร์นาในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่ WHO จะทำการอนุมัติเพิ่มวัคซีนของโมเดอร์นาในรายชื่อวัคซีนที่สามารถใช้งานได้ในกรณีฉุกเฉิน (Emergency Use Listing - EUL)
วัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นาเป็นวัคซีนชนิด mNRA ซึ่ง SAGE ระบุว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ถึง 94.1% และ SAGE แนะนำให้ใช้วัคซีนดังกล่าวสำหรับประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้ กระบวนการ EUL ของ WHO นั้น จะทำการประเมินข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกเฟส 2 และ 3 รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัย, ประสิทธิภาพ, คุณภาพ และแผนการจัดการความเสี่ยงของวัคซีนโควิด-19
นอกเหนือจากวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นานั้น ก่อนหน้านี้ WHO ได้อนุมัติการใช้ในกรณีฉุกเฉินให้กับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/บิออนเทค, วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตโดยบริษัทเอสเค ไบโอของเกาหลีใต้, วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินดีย และวัคซีนโควิดของแจนเซ่น