รัฐบาลสิงคโปร์กำลังประเมินความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงโครงการ Air Travel Bubble (ATB) กับฮ่องกง หลังจากที่สิงคโปร์กลับมาเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งและนำไปสู่การบังคับใช้มาตรการควบคุมการระบาดครอบใหม่
ทางการสิงคโปร์ระบุว่า อาจมีการบังคับใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเวลาสามสัปดาห์ ซึ่งจะจำกัดการรวมกลุ่มได้ไม่เกิน 5 คน และเพิ่มความเข้มงวดในการเดินทางข้ามพรมแดน เพื่อสกัดไม่ให้เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ที่พบในอินเดียแพร่ระบาดเข้ามาในสิงคโปร์
ทั้งนี้ การบังคับใช้กฎที่เข้มงวดขึ้นนั้นมีขึ้นหลังจากที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ว่า โครงการ ATB จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.เป็นต้นไปได้เพียงสัปดาห์เศษ
ทางด้านนายลอว์เรนซ์ หว่อง รัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแลงานด้านโควิด-19 ของรัฐบาลสิงคโปร์กล่าวว่า "เราจะคอยเฝ้าติดตามสถานการณ์ ตรวจสอบ และประเมินว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่ของสิงคโปร์และฮ่องกงยังคงประสานงานกันอยู่"
ทั้งนี้ การติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนที่เพิ่มขึ้นในสิงคโปร์ รวมทั้งการรายงานผู้เสียชีวิตเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองเดือนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น บ่งชี้ว่าข้อตกลงในโครงการท่องเที่ยวนั้นยังคงเปราะบาง ในขณะที่สิงคโปร์กำลังเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้รวดเร็ว
ตามข้อกำหนดของโครงการ ATB ระบุว่า หากยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ไม่ได้มาจากในประเทศโดยเฉลี่ยนั้นมากกว่า 5 รายในช่วงระยะเวลา 7 วัน ทั้งในสิงคโปร์และฮ่องกง โครงการดังกล่าวจะต้องถูกระงับ อย่างไรก็ดี ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสิงคโปร์โดยเฉลี่ยขณะนี้อยู่ที่ 1.43 รายในช่วง 7 วัน ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขที่กำหนดไว้