นายแพทย์เดล ฟิชเชอร์ ประธานฝ่ายการแจ้งเตือนและเครือข่ายการรับมือโรคระบาดทั่วโลกขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า สิงคโปร์กำลังเผชิญปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายเดือน อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวอาจจะกลับมาดีขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
"เราเชื่อว่าจะสามารถหยุดยั้งวงจรการแพร่กระจายของโรคได้" นายแพทย์ฟิชเชอร์ให้สัมภาษณ์ในรายการ Street Signs Asia ทางสถานีโทรทัศน์ CNBC เมื่อวานนี้
"จากการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดอย่างรอบด้านและค่อนข้างรัดกุม รวมถึงมาตรการกักตัวผู้สัมผัสใกล้ชิด และการแยกตัวผู้ติดเชื้อออกมา ผมจึงมั่นใจว่า เราจะได้เห็นสถานการณ์คลี่คลายลงในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า" นายแพทย์ฟิชเชอร์กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์รายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 64 รายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จาก 11 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า
ขณะที่คณะทำงานร่วมหลายกระทรวงของสิงคโปร์ประกาศวานนี้ว่า จะมีการบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 8-30 พ.ค.นี้
นอกจากนี้ ทางการสิงคโปร์ยังระบุว่า ไวรัสโควิด-19 ที่เกิดการ "กลายพันธุ์คู่" (double mutant) ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดียนั้น ยังพบในผู้ที่ติดเชื้อโควิดในประเทศระลอกนี้ด้วย โดยสายพันธุ์ B.1.617 นั้นถูกระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในอินเดียพุ่งขึ้นต่อเนื่อง จนทำให้ระบบสาธารณสุขของประเทศล้มเหลว ขณะที่โรงพยาบาลไม่มีเตียงและออกซิเจนเพียงพอสำหรับผู้ป่วย