หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า นางเมลินดา เกตส์ได้ปรึกษากับทนายความเพื่อเริ่มกระบวนการหย่ากับนายบิล เกตส์ ตั้งแต่ในปี 2562 ก่อนที่จะออกมาประกาศการหย่าร้างอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสาเหุตหนึ่งในนั้นมาจากข้อกังวลที่ว่าสามีของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายเจฟฟรีย์ เอปสไตน์ เศรษฐีชาวอเมริกันและผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศ
วอลล์สตรีทเจอร์นัลได้อ้างถึงเอกสารและบุคคลใกล้ชิด ระบุว่า นางเมลินดาได้ปรึกษากับทนายความของบริษัทหลายแห่งเมื่อเดือนต.ค.2562 ซึ่งเธอนั้นไม่สบายใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของนายบิล เกตส์ และนายเอปสไตน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนับย้อนหลังไปอย่างน้อยถึงปี 2556
ทางด้านหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อเดือนต.ค.2562 ว่า นายเกตส์และนายเอปสไตน์มีความสนิทสนมกันและได้พบปะพูดคุยกันหลายครั้ง โดยมีครั้งหนึ่งที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนดึกในทาวน์เฮาส์ของนายเกตส์ที่นิวยอร์ก ขณะที่โฆษกของนายเกตส์ระบุว่า การพบกันในช่วงนั้นเป็นการหารือเรื่องงานการกุศล
ต่อมาในวันที่ 10 ส.ค. 2562 นายเอปสไตน์ได้กระทำการอัตวินิบาตกรรมด้วยการแขวนคอตนเองในเรือนจำแมนฮัตตัน เพื่อหนีปัญหาคดีความที่ตนเองตกเป็นจำเลย ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี และข้อหาค้ามนุษย์
ทั้งนี้ การหย่าร้างของนางเมลินดา และนายบิล เกตส์ ได้ดำเนินการโดยทีมกฎหมายและผู้ไกล่เกลี่ยเพื่อแบ่งสินทรัพย์ซึ่งมีมูลค่าราว 1.45 แสนล้านดอลลาร์ โดยหลังการประกาศหย่าร้าง บริษัทโฮลดิ้งซึ่งนายเกตส์ได้ตั้งขึ้นนั้น ได้ดำเนินการโอนหุ้นให้กับนางเมลินดามูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นหุ้นที่นายเกตส์ถือครองในบริษัท Canadian National Railway
อย่างไรก็ดี นายเกตส์และอดีตภรรยาจะยังคงร่วมกันบริหารและดูแลงานของมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation) ต่อไป