หนังสือพิมพ์อินเดียน เอ็กซ์เพรสรายงานว่า ขณะนี้มีแนวโน้มว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทซิโนฟาร์มจากประเทศจีน จะได้รับการนำไปใช้ในโครงการ COVAX ซึ่งเป็นกลไกจัดหาวัคซีนให้กับประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง โดยวัคซีนของซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนจากบริษัทที่ไม่ใช่ของชาติตะวันตกเจ้าแรกที่ได้การรับรองโดยองค์การอนามัยโลก (WHO)
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา WHO ได้ประกาศให้การรับรองวัคซีนของซิโนฟาร์มสำหรับการใช้ในกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้ทุกประเทศสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ง่ายขึ้น
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจาก WHO เปิดเผยว่า วัคซีนของซิโนฟาร์มมีประสิทธิภาพราว 79% ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในกรณีที่แสดงอาการและกรณีต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสำหรับทุกกลุ่มอายุ อย่างไรก็ดี WHO ระบุว่า ในการวิจัยมีผู้เข้าร่วมที่อายุมากกว่า 60 ปีจำนวนไม่มากเพียงพอ จึงไม่สามารถสรุปข้อมูลประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนฟาร์มในกลุ่มผู้สูงอายุได้ชัดเจน
วัคซีนของซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย ผลิตขึ้นโดยการนำเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ไปผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน สารเคมี หรือกัมมันตภาพรังสี โดยข้อมูลจาก WHO ระบุว่า วัคซีนชนิดนี้ใช้เวลาในการผลิตนานกว่าชนิดอื่นๆ และอาจต้องมีการฉีดวัคซีน 2-3 โดสเพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ขณะนี้ WHO ยังไม่มีการจำกัดช่วงอายุของผู้ที่ควรได้รับวัคซีนของซิโนฟาร์ม โดยระบุว่า "ข้อมูลเบื้องต้นและข้อมูลเกี่ยวกับการกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันที่สนับสนุนใช้วัคซีนของซิโนฟาร์มบ่งชี้ว่า วัคซีนดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้สูงอายุ และขณะนี้ยังไม่มีเหตุผลทางทฤษฎีให้เชื่อว่า วัคซีนชนิดนี้มีความเสี่ยงไม่เท่ากันสำหรับวัยสูงอายุและวัยหนุ่มสาว"
ทั้งนี้ WHO ได้ให้คำแนะนำว่า วัคซีนของซิโนฟาร์มควรใช้สำหรับฉีดให้กับผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยให้ฉีดทั้งหมด 2 โดส และเว้นระยะห่าง 3-4 สัปดาห์ในการฉีดแต่ละโดส