บริษัทฮุนได มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์ฮุนไดและเกียประกาศว่า บริษัทมีแผนจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐโดยเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนมูลค่า 7.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงการสร้างสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนและระบบแท็กซี่บินได้แบบไร้คนขับ
ฮุนได มอเตอร์ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า การลงทุนดังกล่าวจะมีขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 แต่ไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าจะลงทุนเงินจำนวนเท่าใดในด้านใดบ้าง โดยบริษัทเปิดเผยว่า รถยนต์ไฟฟ้าของฮุนไดจะผลิตขึ้นที่โรงงานผลิตรถยนต์ในเมืองมอนต์โกเมอรี่ รัฐแอละแบมา ในขณะที่เกียมีโรงงานผลิตรถยนต์ในเมืองเวสต์พอยต์ รัฐจอร์เจีย
มิเชล ทินสัน โฆษกบริษัทฮุนได มอเตอร์ประจำสหรัฐกล่าวว่า "เราจะพิจารณาทางเลือกต่างๆ รวมถึงการขยับขยายโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีอยู่แล้ว หลังจากเราได้วิเคราะห์สภาพตลาดและนโยบายใหม่ของรัฐบาลสหรัฐเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า" โดยทั้งฮุนไดและเกียต่างมีเป้าหมายในการสร้างห่วงโซ่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มั่นคงเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดสหรัฐ
ในร่างกฎหมายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประธานาธิบดีโจ ไบเดนนั้น มีการกำหนดงบประมาณ 1.74 แสนล้านดอลลาร์สำหรับลงทุนในการสร้างสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงประกาศลดหย่อนภาษีให้ผู้บริโภคที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในสหรัฐ และปธน.ไบเดนเองก็ได้ให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนรถยนต์ของรัฐบาลสหรัฐทั้งหมดเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ขณะนี้บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างคาดหวังว่า ร่างกฎหมายนี้จะเร่งให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคิดเป็นเพียง 1.8% ของยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในสหรัฐประจำปี 2563
ก่อนหน้านี้ โฮเซ่ มูโนซ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของฮุนได มอเตอร์กล่าวว่า รถยนต์ฮุนไดและเกียทำยอดขายในสหรัฐได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ด้วยรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) รุ่นเกีย เทลลูไรด์และฮุนได ซานตาเฟ่ โดยขณะนี้โรงงานผลิตรถยนต์ของฮุนไดในรัฐแอละแบมาเดินหน้าผลิตเต็มกำลังที่ระดับ 4 แสนคันต่อปี