นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา อิงค์ เสียตำแหน่งมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยเป็นอันดับ 2 ของโลกให้กับนายเบอร์นาร์ด อาร์โนลท์ ซีอีโอหลุยส์ วิตตองแล้ว หลังจากหุ้นเทสลาร่วงลง 2.2% ต่อเนื่องจากที่นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และสัญญาณที่น่ากังวลเกี่ยวกับกิจการของเทสลาในจีนเมื่อไม่นานมานี้
นายมัสก์เคยครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกในการจัดอันดับของสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อเดือนมี.ค. แต่ปัจจุบันมีทรัพย์สินเป็นมูลค่า 1.606 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 24% จากตัวเลขสูงสุดเมื่อเดือนม.ค.
การลดลงของมูลค่าทรัพย์สินนายมัสก์เกิดขึ้นหลังจากเขาต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนมากมาย การแสดงออกของนายมัสก์ได้ทำให้มูลค่าบิทคอยน์ร่วงลงถึง 15% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังนายมัสก์ประกาศว่า เทสลาจะไม่รับบิทคอยน์ในการซื้อรถยนต์ของบริษัทอีกต่อไป
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายมัสก์ได้ทำให้เกิดกระแสความกังวลอีกครั้งด้วยการส่งสัญญาณว่า เทสลาตั้งใจจะขายหรือได้ทำการขายบิตคอยน์ที่มีอยู่ทั้งหมดไปแล้ว อย่างไรก็ดี นายมัสก์ได้ทวีตข้อความอธิบายเมื่อวานนี้ว่า เทสลายังไม่ได้มีการดำเนินการดังกล่าว โดยยังไม่ได้ขายบิตคอยน์ที่มีอยู่แต่อย่างใด
เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา นายมัสก์ได้ครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก หลังจากหุ้นเทสลาทะยานเกือบ 750% ในปี 2563 โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ถึงกระนั้น แม้เทสลาจะเปิดเผยผลกำไรประจำไตรมาส 1/2564 แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ แต่หุ้นเทสลาก็ยังคงดิ่งลงราว 20% เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนชิปที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ และต้องแข่งขันกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น