กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศทุ่มเงิน 50,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อยุติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการระดมฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรโลกจำนวน 40% ภายในสิ้นปีนี้ และอีก 60% ภายในกลางปีหน้า
IMF ระบุว่า หากไม่มีการดำเนินการที่เร่งด่วน ประเทศเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากจะยังคงต้องรอวัคซีนต่อไปจนถึงสิ้นปีหน้า หรือหลังจากนั้น ก่อนที่จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศ
นอกจากนี้ IMF เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยอัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 9 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่เศรษฐกิจโลกภายในปี 2568 จากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น โดยประเทศที่ร่ำรวยจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด
ทั้งนี้ วงเงิน 50,000 ล้านดอลลาร์ในโครงการฉีดวัคซีนดังกล่าว จำนวน 35,000 ล้านดอลลาร์จะมาจากเงินให้เปล่าของกลุ่มประเทศร่ำรวย รวมทั้งจากการบริจาคขององค์กรระหว่างประเทศ ส่วนอีก 15,000 ล้านดอลลาร์จะมาจากรัฐบาลชาติต่างๆซึ่งจะกู้เงินมาจากธนาคารเพื่อการพัฒนาหลายแห่งที่จะคิดอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ หรือ 0%
IMF คาดการณ์ว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยให้มีการบริจาควัคซีนจำนวน 1 พันล้านโดสในปีนี้ และมีการผลิตวัคซีนอีก 1 พันล้านโดสภายในต้นปีหน้า