นายโนริฮิสะ ทามูระ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะพิจารณาเรื่องการขยายการประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกรุงโตเกียว, จังหวัดโอซาก้า และอีก 7 จังหวัดโดยรอบ เมื่อคำสั่งในปัจจุบันสิ้นสุดลงในช่วงต้นสัปดาห์หน้า
การพิจาณาขยายเวลาภาวะฉุกเฉินมีขึ้น หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลให้ระบบการแพทย์ของญี่ปุ่นเผชิญกับภาวะตึงตัว
ส่วนเมื่อวานนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ที่กรุงโตเกียวและโอซาก้า เพื่อเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชน หลังจากโครงการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ จนเป็นเหตุให้เกิดกังวลเกี่ยวกับแผนการจัดการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกในอีก 2 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นคาดหวังว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนจะสามารถรองรับการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนสูงสุดถึง 10,000 คนต่อวันในกรุงโตเกียว และ 5,000 คนต่อวันในโอซาก้า อีกทั้งจะช่วยให้รัฐบาลบรรลุเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
นายทามูระกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า "เรากำลังพิจารณาเรื่องการขยายภาวะฉุกเฉิน โดยการตัดสินใจขั้นสุดท้ายนั้น จะพิจารณาจากการประเมินของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ"
การประกาศภาวะฉุกเฉินในปัจจุบันของญี่ปุ่นจะสิ้นสุดลงในวันจันทร์ที่ 31 พ.ค.นี้ โดยมาตรการดังกล่าวได้บังคับใช้ในจังหวัดต่างๆ รวม 9 จังหวัดซึ่งรวมถึงเกียวโต, เฮียวโก, อิชิ, ฟูกุโอกะ, ฮอกไกโด, ฮิโรชิม่า และโอกายามา