รัฐบาลจีนตำหนิไต้หวันหลังรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 กว่า 1 ล้านโดสของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นแรงตึงเครียดรอบใหม่ที่ปะทุขึ้นระหว่างจีนและไต้หวัน
แถลงการณ์ของรัฐบาลจีนระบุว่า "รัฐบาลไต้หวันนำโดยพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าได้ปิดกั้นการจัดส่งวัคซีนจากแผ่นดินใหญ่" ขณะที่วัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าคาดว่าจะส่งจากญี่ปุ่นถึงไต้หวันในวันนี้
รัฐบาลจีนยังระบุอีกว่า "การรับมอบวัคซีนที่พัฒนาโดยแผ่นดินใหญ่ซึ่งมีความปลอดภัยและมีอยู่เป็นจำนวนมากนั้น สามารถช่วยสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไต้หวันได้" ขณะที่ไต้หวันมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของไต้หวัน เปิดเผยว่า จีนขัดขวางไม่ให้ไต้หวันซื้อวัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบิออนเทค (BioNTech SE) ซึ่งเป็นบริษัทยาสัญชาติเยอรมัน โดยนางไช่ระบุว่า รัฐบาลไต้หวันเกือบได้เซ็นสัญญาซื้อวัคซีนกับบริษัทบิออนเทค แต่รัฐบาลจีนแทรกแซงการเจรจาระหว่างสองฝ่าย จนส่งผลให้ไต้หวันไม่สามารถเซ็นสัญญาได้ในท้ายที่สุด
ด้านจีนได้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของปธน.ไต้หวัน โดยระบุว่า ไม่ได้มีการปิดกั้นช่องทางที่ไต้หวันจะรับวัคซีนจากจีนแต่อย่างใด
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จีนได้เตือนให้นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ไม่ให้ใช้ความช่วยเหลือด้านวัคซีนแก่ไต้หวันเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองเพื่อตัวเอง
ทางด้านนายหวัง เหวินบิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "ผมมองว่าญี่ปุ่นเองก็มีวัคซีนแทบไม่พอสำหรับประเทศตัวเอง"