กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องให้ผู้นำกลุ่มประเทศ G7 สร้างความมั่นใจว่าประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้อย่างเท่าเทียมกัน และไม่ยินยอมให้แรงจูงใจในการทำกำไรมาบ่อนทำลายสุขภาพและความเท่าเทียมของโลก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญ UN กล่าวในแถลงการณ์ก่อนการประชุมสุดยอด G7 ที่จะจัดขึ้นในอังกฤษ วันที่ 11-13 มิ.ย. ว่า "ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ปลอดภัย, มีประสิทธิภาพ และทันเวลา และพัฒนาขึ้นมาจากการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุด"
"ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความร่วมมือระหว่างประเทศในการส่งมอบความช่วยเหลือแก่ทุกรัฐบาล เพื่อเร่งฉีดวัคซีนและช่วยเหลือชีวิตผู้คน" ผู้เชี่ยวชาญระบุ "นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับการเจรจาที่ยืดเยื้อหรือการวิ่งเต้นเพื่อปกป้องผลกำไรขององค์กร"
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่า การผลิตวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างรวดเร็วเป็นพิเศษนั้น ไม่มีความต่อเนื่องเพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจว่าทุกประเทศและภูมิภาคสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม
"ประชาชนหลายพันล้านคนในประเทศในซีกโลกใต้กำลังถูกถอดทิ้ง พวกเขามองว่าวัคซีนเป็นเพียงภาพลวงตาหรือเป็นสิทธิพิเศษสำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว" ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า พร้อมเสริมว่า "สถานการณ์นี้จะยิ่งทำให้วิกฤตยืดเยื้อออกไปโดยไม่จำเป็น ตลอดจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก, ทำให้ความตึงเครียดทางเศรษฐกิจทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และอาจหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความไม่สงบในสังคม"
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า "ผู้นำกลุ่ม G7 ต้องให้ความสำคัญสูงสุดในการปกป้องสิทธิในการมีชีวิตและสุขภาพของประชาชนในสถานการณ์ที่เปราะบางที่สุดทางสังคมและเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ผู้คนนับล้านเผชิญกับความยากจนและความหิวโหย"