นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเดินทางถึงอังกฤษแล้วเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม 7 ชาติ (G7) โดยการหารือจะมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความท้าทายระดับโลก เช่น การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการทหารที่เพิ่มขึ้นของจีน
นายซูงะแถลงต่อสื่อมวลชนก่อนเดินทางไปยังสนามบินฮาเนดะในกรุงโตเกียวว่า "ผมตั้งตารอที่จะจัดการเจรจาอย่างตรงไปตรงมากับผู้นำกลุ่ม G7 ซึ่งมีค่านิยมสากลร่วมกัน" พร้อมเสริมว่า เขาจะขอการสนับสนุนสำหรับการจัดแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนหน้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประชุม G7 แบบตัวต่อตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปีนั้น มีกำหนดจัดขึ้นที่รีสอร์ทริมทะเลคาร์บิส เบย์ เมืองคอร์นวอลล์ของอังกฤษระหว่างวันที่ 11-13 มิ.ย.นี้ นอกจากนี้ คาดว่านายซูงะจะจัดการประชุมระดับทวิภาคีขึ้นนอกรอบการประชุม G7 กับผู้นำคนอื่นๆ รวมถึงกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ
นายซูงะซึ่งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนก.ย. รวมถึงนายไบเดน และนายมาริโอ ดรากี นายกรัฐมนตรีอิตาลีจะเข้าร่วมการประชุม G7 เป็นครั้งแรก
ประเด็นที่เกี่ยวกับจีนจะเป็นหัวข้อสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการรุกล้ำของจีนเหนือทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนได้อ้างสิทธิ์ในอาณาเขตนั้น รวมถึงการปฏิบัติต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียง
ทั้งนี้ ผู้นำกลุ่ม G7 วางแผนที่จะเปิดตัวโครงการริเริ่มใหม่เพื่อจัดหาเงินทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา และเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับโครงการ Belt and Road initiative (BRI) ของจีน ขณะที่แถลงการณ์ร่วมของ G7 หลังการประชุมนั้น จะได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดสำหรับการพูดถึงไต้หวันที่กำลังเผชิญกับแรงกดดันทางทหารที่เพิ่มขึ้นจากจีน