นางอองซาน ซูจี ผู้นำของรัฐบาลพลเรือนเมียนมาที่ถูกยึดอำนาจ มีกำหนดเข้าร่วมการพิจารณาคดีในชั้นศาลเป็นครั้งแรกในวันนี้ โดยรัฐบาลทหารของเมียนมาได้ตั้งข้อหากับนางซูจีหลายกระทง หลังกองทัพได้ก่อเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
นายคิน มอง ซอ ผู้เป็นหัวหน้าทนายความของนางซูจี และนายวิน มินต์ อดีตประธานาธิบดีเมียนมาเปิดเผยว่า ทั้งสองซึ่งถูกควบคุมตัวมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.และถูกตั้งข้อหาหลายกระทง จะให้ปากคำในชั้นศาลด้วยตัวเองในการพิจารณาคดีพิเศษ ณ กรุงเนปิดอว์ โดยนางซูจีถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโควิด-19 ระหว่างการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 รวมถึงทำการยุยงปลุกปั่นมวลชน และครอบครองวิทยุสื่อสารอย่างผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ นายคิน มอง ซอระบุเพิ่มเติมว่า นางซูจีจะเข้ารับฟังการพิจารณาคดีอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นการพิจารณาคดีในข้อหาเกี่ยวกับกฎหมายการจัดการภัยพิบัติและกฎหมายการสื่อสารโทรคมนาคม โดยนายคิน มอง ซอคาดว่า ศาลจะมีคำตัดสินในคดีเหล่านี้ในช่วงกลางเดือนส.ค. และระบุว่า เขามองว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดที่รัฐบาลทหารตั้งกับนางซูจีนั้นไม่มีมูล
การพิจารณาคดีที่จะเกิดขึ้นเป็นผลมาจากการกดดันของกองทัพเมียนมาที่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของนางซูจี หลังพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางซูจีชนะการเลือกตั้งโดยได้รับคำแนนเสียงท่วมท้นจนได้ตำแหน่งกว่า 80% ในรัฐสภา ซึ่งทำให้กองทัพเมียนมาออกมาประกาศว่า มีการทุจริตการเลือกตั้งเป็นวงกว้าง แม้ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งจากนานาชาติจะระบุว่า การเลือกตั้งดังกล่าวเป็นไปอย่างอิสระและโปร่งใส
นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. เป็นต้นมา รัฐบาลทหารเมียนมาต้องเผชิญปัญหาในการแย่งชิงอำนาจจากรัฐบาลเงาที่ก่อตั้งโดยพรรค NLD ของนางซูจีและพันธมิตร รวมถึงความขัดแย้งภายในระหว่างรัฐบาลทหารกับกองกำลังชาติพันธุ์ติดอาวุธ ตลอดจนการคว่ำบาตรจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐและชาติตะวันตกอื่นๆ หลังรัฐบาลทหารของเมียนมาใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามผู้ประท้วงและสังหารประชาชนมากกว่า 850 ราย