บริษัทโนวาแวกซ์ อิงค์ของสหรัฐเปิดเผยผลการทดลองทางคลินิกครั้งล่าสุดพบว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ได้มากกว่า 90% ซึ่งรวมถึงการต้านไวรัสกลายพันธุ์
โนวาแวกซ์ระบุว่า ผลการทดลองที่ได้จากการฉีดวัคซีนโนวาแวกซ์ให้กับอาสาสมัครจำนวนเกือบ 30,000 คนในสหรัฐและเม็กซิโกนั้น ทำให้โนวาแวกซ์มีความคืบหน้ามากขึ้นในการยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนเป็นกรณีฉุกเฉินในสหรัฐและประเทศอื่นๆ ในไตรมาส 3 ปีนี้
ทั้งนี้ ผลการทดลองบ่งชี้ว่า วัคซีนของโนวาแวกซ์ซึ่งใช้โปรตีนเป็นส่วนประกอบหลักนั้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่เชื้อของโคโรนาไวรัสชนิดกลายพันธุ์ได้มากกว่า 93% ซึ่งไวรัสกลายพันธุ์หลายชนิดได้ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่นักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข
ดร.เกรกอรี เกลนน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของโนวาแวกซ์เปิดเผยว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สูงถึง 91% เมื่อทดลองใช้กับอาสาสมัครที่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อรุนแรง และมีประสิทธิภาพถึง 100% ในการป้องกันการเกิดอาการปานกลางและรุนแรง นอกจากนี้ วัคซีนยังมีประสิทธิภาพ 70% ในการป้องกันไวรัสชนิดกลายพันธุ์ซึ่งทางโนวาแวกซ์ยังไม่สามารถระบุสายพันธุ์ได้
"ในทางปฏิบัตินั้น วัคซีนของเรามีความสามารถอย่างมากในการป้องกันไวรัสชนิดกลายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลกในขณะนี้" ดร.เกลนน์กล่าว
โนวาแวกซ์ยังระบุด้วยว่า ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากวัคซีนนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ผู้ฉีดวัคซีนสามารถอดทนได้ โดยผลข้างเคียงดังกล่าวรวมถึงอาการปวดหัว อ่อนเพลียและปวดกล้ามเนื้อ และมีไข้เล็กน้อย ขณะที่มีอาสาสมัครเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่มีผลข้างเคียงเข้าขั้นรุนแรง
โนวาแวกซ์ยังคงมีเป้าหมายที่จะผลิตวัคซีนในปริมาณ 100 ล้านโดสต่อเดือนภายในสิ้นสุดไตรมาส 3 ปีนี้ และจะผลิตให้ได้ในปริมาณ 150 ล้านโดสต่อเดือนในไตรมาส 4 ปีนี้
ทางด้านนายสแตนลีย์ เอิร์ค ซีอีโอของโนวาแวกซ์เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ CNBC เมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐมีแผนที่จะบริจาควัคซีนของโนวาแวกซ์จำนวน 110 ล้านโดส ซึ่งเป็นจำนวนที่โนวาแวกซ์ได้ตกลงเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะจัดหาให้กับรัฐบาลสหรัฐ เพื่อส่งมอบให้กับโครงการ COVAX ซึ่งเป็นโครงการจัดหาวัคซีนให้กับกลุ่มประเทศยากจน