แคลิฟอร์เนียจ่อเผชิญคลื่นความร้อน-ภัยแล้งครั้งใหญ่ อาจทำให้เกิดไฟป่า

เจ้าหน้าที่รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศเตือนว่า แคลิฟอร์เนียกำลังจะเผชิญคลื่นความร้อนครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกของปีในสัปดาห์นี้ รวมถึงสภาวะภัยแล้งรุนแรงที่อาจทำให้เกิดไฟป่าเพิ่มขึ้น

สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติ (NWS) ลอสแองเจลลิสเปิดเผยเมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) ว่า การก่อตัวของความกดอากาศสูงทางตะวันตกเฉียงใต้จะทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นและจะยิ่งสูงขึ้นในสัปดาห์ต่อไป โดยอุณหภูมิอาจสูงแตะ 112 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 44.4 องศาเซลเซียส) ในหุบเขาแอนทีโลพทางตอนเหนือของเทศมณฑลลอสแอนเจลิสในสัปดาห์นี้

NWS ทวีตข้อความว่า "วันอังคารถึงวันพฤหัสบดีจะเป็นวันที่ร้อนที่สุด โดยอุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ระหว่าง 100-110 องศา และความชื้นต่ำสุดระหว่าง 5-15% จะพบได้ทั่วไปในภูเขาส่วนใหญ่และภูเขาตอนล่าง"

ขณะเดียวกัน NWS ซาคราเมนโตกล่าวว่า อุณหภูมิจะสูงขึ้นในบริเวณหุบเขาซานโจอาควินและหุบเขาซาคราเมนโต ทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนียในวันพฤหัสบดีนี้ อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ระหว่าง 100 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 37.8 องศาเซลเซียส) ถึง 113 องศาฟาเรนไฮต์ในพื้นที่ภูเขาใกล้กับเมืองหลวงของรัฐแคลิฟอร์เนีย

คลื่นความร้อนดังกล่าวจะทำให้ภัยแล้งรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (NOAA) กล่าวเตือนถึงสภาวะภัยแล้งที่รุนแรงเป็นพิเศษบริเวณทางเหนือและตอนกลางของรัฐแคลิฟอร์เนีย ตลอดจนตามแนวชายฝั่งแคลิฟอร์เนียตอนกลาง

ด้านสำนักป่าไม้และการป้องกันอัคคีภัยแห่งแคลิฟอร์เนีย (Cal Fire) เปิดเผยว่า ปัจจุบันแคลิฟอร์เนียมีไฟป่าเกิดขึ้น 4 ประเภทในรัฐได้แก่ Beale Fire, Goose Fire, Flats Fire และ Farm Fire

ทั้งนี้ คำเตือนธงแดงจะมีผลบังคับใช้ในช่วงเย็นวันจันทร์จนถึงเช้าวันพุธนี้ตามชายฝั่งทางใต้ของเมืองซานตาบาร์บารา และคาดว่าจะเกิดไฟป่าที่รุนแรงในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของแคลิฟอร์เนียเช่นกัน