นายมาร์ค โลว์ค็อก รองเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ด้านมนุษยธรรมและการประสานงานด้านความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ออกมาโจมตีกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม G7 ในวันนี้ โดยระบุว่า การที่กลุ่ม G7 มอบวัคซีนเพียง 1 พันล้านโดสตลอดปีหน้านั้นเป็นแค่เพียงก้าวเล็กๆ เท่านั้น
"การบริจาควัคซีนเพียงเล็กน้อยเป็นครั้งคราวจากประเทศที่ร่ำรวยไปยังประเทศยากจนไม่ถือเป็นแผนการที่จริงจัง และจะไม่ช่วยให้การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 สิ้นสุดลง" นายโลว์ค็อกซึ่งเพิ่งลงจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์
"G7 ล้มเหลวในการมอบความช่วยเหลือเร่งด่วนอย่างแท้จริง"
"พวกเขาทำได้เพียงแค่ก้าวเล็กๆ ในการประชุมที่รีสอร์ทอันแสนหรูหราในคอร์นวอลล์ พวกเขาไม่ควรหลอกตัวเองว่ามันเป็นก้าวที่ใหญ่โตอะไร และพวกเขามีภารกิจอื่นๆ ที่ต้องทำอีกมาก" นายโลว์ค็อกกล่าว
"สิ่งที่โลกต้องการจากกลุ่ม G7 คือแผนการฉีดวัคซีนทั่วโลก แต่สิ่งที่เราได้กลับเป็นเพียงแผนมอบวัคซีนให้กับประชากรแค่ 10% ของกลุ่มประเทศรายได้ระดับปานกลางและระดับต่ำ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีก 1 ปีนับจากนี้ หรือถึงช่วงครึ่งหลังของปีหน้า"
เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เปิดเผยข้อเสนอในการยุติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการฉีดวัคซีนให้กับประชากรโลกอย่างน้อย 40% ภายในสิ้นปี 2564 และอย่างน้อย 60% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565
"นั่นคือข้อตกลงแห่งศตวรรษ" นายโลว์ค็อกกล่าว พร้อมเสริมว่า กลุ่ม G7 ควรต้องดำเนินการมากกว่านี้เพื่อมอบอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการรับมือกับโรคโควิด-19 อาทิ เครื่องช่วยหายใจ, อุปกรณ์ตรวจโรค และอุปกรณ์ป้องกันให้กับประเทศที่ได้รับวัคซีนล่าช้า