นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเปิดเผยว่า เศรษฐกิจของประเทศปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ แต่เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายใช้มาตรการเพื่อจัดการกับวิกฤตการณ์ด้านอาหาร อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และพายุไต้ฝุ่นเมื่อปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิมเป็นประธานในการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อทบทวนความคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบายหลักและจัดทำมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ
KCNA ระบุว่า คณะกรรมการกลางพรรคแรงงานเกาหลีเหนือได้กำหนดเป้าหมายและภารกิจเพื่อบรรลุแผนเศรษฐกิจระยะ 5 ปี ฉบับใหม่ ซึ่งระบุไว้ในการประชุมครั้งก่อนในเดือนก.พ. ซึ่งรวมถึงการผลิตอาหารและโลหะที่เพิ่มขึ้น
นายคิมกล่าวว่า เศรษฐกิจโดยรวมของเกาหลีใต้ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมทั้งหมดขยายตัว 25% จากปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม นายคิมระบุว่า มีอุปสรรคหลายอย่างที่ขัดขวางความพยายามของพรรคในการดำเนินการตามแผน โดยเฉพาะสถานการณ์ด้านอาหารที่เข้าขั้นวิกฤต
"สถานการณ์ด้านอาหารของประชาชนกำลังตึงเครียด หลังจากที่ภาคเกษตรกรรมไม่สามารถดำเนินการตามแผนการผลิตธัญพืชได้ อันเนื่องมาจากความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นเมื่อปีที่ผ่านมา" นายคิมกล่าว
พรรคแรงงานเกาหลีเหนือให้คำมั่นที่จะเพิ่มความพยายามด้านการเกษตรในปีนี้ และหารือเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ แม้ว่าเกาหลีเหนือไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างเป็นทางการภายในประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เคลือบแคลง แต่เกาหลีเหนือได้กำหนดมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวด รวมถึงมาตรการปิดชายแดนและข้อจำกัดการเดินทางภายในประเทศ
โครงการ COVAX ซึ่งเป็นโครงการจัดหาวัคซีนให้กับกลุ่มประเทศยากจน เปิดเผยว่า COVAX จะส่งมอบวัคซีนเกือบ 2 ล้านโดสให้แก่เกาหลีเหนือ แต่การจัดส่งเป็นไปอย่างล่าช้า ในขณะที่การเจรจาของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างยืดเยื้อ