สำนักงานสาธารณสุขรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจำนวน 64 ราย โดยไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวพบครั้งแรกในประเทศอินเดีย
นายเจบี พริทซ์เกอร์ ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์แสดงความกังวลระหว่างแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า กลุ่มเด็กที่อายุน้อยกว่า 12 ปี ซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
"ไวรัสสายพันธุ์เดลตาอาจเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในหมู่ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งผมรู้สึกเป็นห่วงเด็กกลุ่มดังกล่าว" หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานโดยอ้างคำแถลงของผู้ว่าการรัฐฯ
อย่างไรก็ดี ผู้ว่าการรัฐฯ ได้กล่าวว่า ข่าวดีคือวัคซีนที่มีอยู่ตอนนี้สามารถต้านทานไวรัสสายพันธุ์เดลตาได้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ สำนักงานสาธารณสุขของรัฐอิลลินอยส์ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 9,400 ราย ในจำนวนนี้มี 6,300 รายเป็นเชื้อสายพันธุ์อัลฟาซึ่งพบครั้งแรกในอังกฤษ รองลงมาเป็นสายพันธุ์แกมมาซึ่งพบในผู้เดินทางมาจากบราซิลเป็นครั้งแรก โดยสายพันธุ์นี้มีอยู่กว่า 2,400 ราย
แม้ว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะมีอยู่น้อยที่สุดในบรรดาสายพันธุ์อื่นๆ ที่พบในรัฐอิลลินอยส์ แต่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐได้ประเมินว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้อาจมีสัดส่วนการระบาดอยู่ที่ราว 10% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐ โดย CDC ระบุให้ไวรัสสายพันธุ์เดลตาเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล