นักการทูตอาวุโสของจีนได้เรียกร้องให้มีความเป็นหนึ่งเดียวกันและมีความร่วมมือระหว่างประเทศทั่วโลกเพื่อแปลงคำมั่นสัญญาของพวกเขาเป็นการกระทำ พร้อมสนับสนุนให้ประเทศกำลังพัฒนาเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ในเวลาที่เหมาะสม
นายเฉิน ซู่ ผู้แทนถาวรของจีนประจำสำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเจนีวา (UNOG) ได้เรียกร้องในระหว่างการเจรจาเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในนามของ 63 ประเทศ ร่วมกับข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชน (United Nations High Commissioner for Human Rights) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
นายเฉินเรียกร้องให้มีการส่งเสริมการแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างเท่าเทียมกันทั่วโลก พร้อมระบุว่า จากวัคซีนจำนวน 2.6 พันล้านโดสที่แจกจ่ายทั่วโลกนั้น มีเพียง 0.3% เท่านั้นที่ส่งมอบให้แก่ประเทศที่มีรายได้ต่ำ
นายเฉินกล่าวในระหว่างการประชุมคณะมนตรีเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council: UNHRC) สมัยที่ 47 ว่า "เราวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสลัทธิชาตินิยมด้านวัคซีน และการกักตุนปริมาณวัคซีนที่เกินความต้องการของประชากร"
นายเฉินกล่าวย้ำอีกครั้งถึงการสนับสนุนของจีนในการแจกจ่ายและการเข้าถึงวัคซีนโควิดอย่างยุติธรรมและเท่าเทียมกันทั่วโลก
นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับปรุงการเข้าถึงวัคซีน, ความสามารถในการแจกจ่าย รวมถึงการผลิตวัคซีนและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพอื่นๆ ในประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งกลุ่มประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด เพื่อช่วยชีวิตและยุติการแพร่ระบาดโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ นายเฉินเรียกร้องให้ทุกประเทศและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตวัคซีนเป็นสองเท่า ขณะเดียวกันก็สนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาให้เพิ่มศักยภาพในการผลิตวัคซีนภายในประเทศ และสนับสนุนการเรียกร้องให้ยกเว้นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับวัคซีนโควิด-19