บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่บริษัทผลิตนั้นมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (Delta) และสายพันธุ์แคปปา (Kappa) ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในประเทศอินเดียได้
แอสตร้าเซนเนก้าออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) ระบุว่า ผลการศึกษาดังกล่าวดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งได้ทำการตรวจสอบความสามารถของโมโนโคลนอลแอนติบอดีในตัวอย่างเลือดของผู้ที่หายจากอาการป่วยแล้ว รวมถึงผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อยับยั้งเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาและแคปปา
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลการวิเคราะห์ของสำนักงานสาธารณสุขอังกฤษ (PHE) ระบุว่า วัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์และแอสตร้าเซนเนก้านั้น สามารถป้องกันอาการป่วยหนักจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาได้มากกว่า 90%
ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้าระบุว่า ผลการศึกษาล่าสุดของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดอาศัยข้อมูลดังกล่าวจาก PHE
ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า สายพันธุ์เดลตากำลังจะกลายเป็นเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดทั่วโลก