ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตออกคำสั่งขยายเวลาบังคับใช้มาตรการควบคุมการเดินทางและธุรกิจในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์และจังหวัดใกล้เคียงไปจนถึงกลางเดือนก.ค. และจะยังคงใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดมากขึ้นในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของประเทศ
เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อในเมืองหลวงซึ่งมีประชากรอย่างน้อย 13 ล้านคนนั้น ลดลงจากระดับสูงสุดในเดือนเม.ย. แต่บางจังหวัดกำลังรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ฟิลิปปินส์พยายามเร่งดำเนินการฉีดวัคซีน
รายงานระบุว่า รัฐบาลได้สั่งปิดสถานบันเทิง สวนสนุก และกีฬาประเภทที่ต้องมีการสัมผัสใกล้ชิดในเขตเมืองหลวงและจังหวัดใกล้เคียง ขณะที่ร้านอาหาร โรงยิม และสถานที่ท่องเที่ยวในร่มจะได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดรับลูกค้าได้ 40%
อย่างไรก็ตาม 21 เมืองและจังหวัดนอกเมืองหลวงยังคงอยู่ภายใต้มาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังขยายเวลาบังคับใช้มาตรการห้ามผู้เดินทางจากโอมาน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียใต้ ไม่ให้เข้าสู่ฟิลิปปินส์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์
นายแฮร์รี โร้ก โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีเวลา 2 วันในการยื่นขอคัดค้านต่อประธานาธิบดีเกี่ยวกับข้อจำกัดดังกล่าว
ขณะนี้ มีประชาชนเพียง 2.5 ล้านรายในฟิลิปปินส์ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว หรือคิดเป็น 3.6% ของประชากร 70 ล้านคนที่รัฐบาลตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในปีนี้
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ได้รับวัคซีนแล้ว 17.5 ล้านโดส โดยส่วนใหญ่เป็นของบริษัทซิโนแวก ขณะที่วัคซีนอีก 40-55 ล้านโดสของบริษัทต่างๆ กำลังอยู่ในระหว่างการสั่งซื้อเพื่อส่งมอบในเดือนมิ.ย.-ก.ย.