นายโรเบิร์ต เจนริค รัฐมนตรีการเคหะของอังกฤษ เปิดเผยว่า อังกฤษจะอนุญาตให้ประชาชนเลือกเองว่าจะใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่ และอังกฤษอาจยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ได้ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ตามที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคยให้คำมั่นไว้ เนื่องจากข้อมูลที่เป็นตัวกำหนดว่าจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์หรือไม่นั้นค่อนข้างออกมาดี
นายเจนริคเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ขั้นสุดท้ายในอีกไม่กี่วันนี้ โดยรัฐบาลต้องการความมั่นใจว่าผู้ใหญ่ทุกคนได้รับวัคซีนครบสองโดส ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาดในขณะที่อังกฤษก้าวเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าตัวเขานั้นจะเลิกใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่หากรัฐบาลอังกฤษอนุญาต นายเจนริค กล่าวว่า "ผมจะเลิกใส่ ผมไม่ค่อยอยากใส่หน้ากากอนามัย ผมคิดว่าคนอื่นก็ไม่ชอบใส่เหมือนกัน เราจะก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาที่ผู้คนจะเลือกเองว่าจะทำหรือไม่"
ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษเตรียมพิจารณาแผนระดมฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เพิ่มเติมในช่วงเดือนก.ย.นี้เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน หลังได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนว่า ประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางอาจต้องได้รับการฉีดวัคซีนโดสที่สาม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า อังกฤษฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 โดสแรกให้กับประชาชนวัยผู้ใหญ่เป็นจำนวน 85% ของประชากรทั้งหมด โดย 60% ได้รับวัคซีนครบทั้งสองโดสแล้ว
ความสำเร็จของแผนระดมฉีดวัคซีนของอังกฤษ ทำให้นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษให้คำมั่นว่า จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาจะพุ่งสูงขึ้นก็ตาม หลังจากที่ต้องล้มเลิกแผนยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เมื่อเดือนมิ.ย.ออกไป
ด้านนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ของอังกฤษกล่าวว่า "เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับเชื้อไวรัสตัวนี้ แผนระดมฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครั้งแรกของเรากำลังช่วยให้ประชาชนในประเทศใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ และแผนระดมฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิจะช่วยรักษาอิสรภาพนี้ไว้"