ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุคอนโดมิเนียมถล่มในรัฐฟลอริดาของสหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็น 28 รายในวันจันทร์ (6 ก.ค.) เนื่องจากการรื้อถอนซากอาคารส่วนที่เหลือเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ช่วยเปิดทางให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถขยายการค้นหาได้มากขึ้น
ทั้งนี้ สหรัฐได้แถลงการพบร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 28 เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา
อย่างไรตาม ขณะนี้ยังมีผู้สูญหายอีก 117 ราย ซึ่งเป็นเวลา 11 วันแล้วหลังเกิดเหตุอาคารพักอาศัย 12 ชั้นพังถล่มในเมืองเซิร์ฟไซด์ รัฐฟลอริดา ขณะที่ทีมกู้ภัยได้ทำการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยหยุดชั่วคราวเฉพาะช่วงเวลาที่สภาพอากาศเลวร้าย มีการเคลื่อนไหวของซากปรักหักพังที่เป็นอันตราย และการรื้อถอนซากอาคาร
คอนโดมิเนียมราวครึ่งหนึ่งพังทลายลงมาในช่วงเช้าของวันที่ 24 มิถุนายน และก่อนหน้านี้พนักงานกู้ภัยได้หยุดการค้นหาชั่วคราวเนื่องจากกังวลว่าซากอาคารส่วนที่เหลือซึ่งไม่มั่นคงอาจพังถล่มลงมาได้
นอกจากนี้ มีแนวโน้มว่าพายุโซนร้อนเอลซาในทะเลแคริบเบียนอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งรัฐฟลอริดาในวันนี้และพัดถล่มอาคารส่วนที่เหลือ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงสั่งรื้อถอนอาคารดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่
แดเนียลลา เลวีน คาวา นายกเทศมนตรีเมืองไมอามี-เดด เคาน์ตี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ทีมค้นหาและกู้ภัยสามารถค้นหาทุกพื้นที่ในจุดเกิดเหตุ หลังจากที่มีการรื้อถอนอาคาร"