เกาหลีใต้ขู่ดำเนินคดีหากสหภาพแรงงานเดินหน้าประท้วง ฐานฝ่าฝืนมาตรการโควิด

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศเตือนสหภาพแรงงานเกาหลี (KCTU) ให้ยกเลิกการเดินขบวนประท้วงที่วางแผนไว้ เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามประชาชนรวมตัวกันจำนวนมากในที่สาธารณะ ขณะที่รัฐบาลเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ต้องบังคับใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดทั่วประเทศ

สมาชิก KCTU กว่า 800 คนมีแผนที่จะเดินขบวนประท้วงในเมืองวอนจู ซึ่งเป็นเมืองชนบทที่อยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางทิศตะวันออกราว 100 กม. โดยการประท้วงครั้งนี้เป็นไปเพื่อเรียกร้องให้มีการขึ้นค่าแรงและปรับปรุงสวัสดิการแรงงานให้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี การประท้วงนี้จะถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรการควบคุมที่บังคับใช้ในหลายพื้นที่ของเกาหลีใต้

นายจอน แฮ-ชอล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของเกาหลีใต้ กล่าวในการประชุมคณะทำงานโควิด-19 ว่า "รัฐบาลเกาหลีใต้จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด หากมีการประท้วงหลังจากมีคำสั่งห้าม เนื่องจากเป็นฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโควิด-19"

ทั้งนี้ ประกาศเตือนของรัฐบาลเกาหลีใต้มีขึ้น หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลมีท่าทีผ่อนปรนต่อการประท้วงครั้งใหญ่ของ KCTU เมื่อต้นเดือนก.ค. แต่กลับปราบปรามการเดินขบวนในพิธีทางศาสนาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนำโดยผู้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีมูน แจ อิน

เมืองวอนจูประกาศยกระดับมาตรการควบคุมเป็นระดับสูงสุดเมื่อคืนวานนี้ โดยห้ามไม่ให้มีการเดินขบวนประท้วง อย่างไรก็ตาม KCTU ปฏิเสธที่จะทำตามมาตรการดังกล่าว โดยอ้างว่ามาตรการเหล่านั้นไม่มีหลักการชัดเจน และยืนยันจะเดินหน้าจัดการประท้วงต่อไป

หน่วยงานสาธารณสุขของเกาหลีใต้รายงานว่า มียอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 185,733 ราย และยอดรวมผู้เสียชีวิต 2,066 ราย นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังมีอัตราการฉีดวัคซีนแบบครบโดสเพียง 13% จากประชากรทั้งหมด 52 ล้านราย แม้ว่ารัฐบาลเกาหลีใต้จะประกาศเป้าหมายว่า จะฉีดวัคซีนให้ประชากรมีภูมิคุ้มกันหมู่ภายในเดือนพ.ย.นี้