กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐเตรียมออกมาตรการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสังกัดซึ่งปฏิบัติงานด่านหน้า ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยกระทรวงฯ เป็นหน่วยงานรัฐบาลแห่งแรกของสหรัฐที่บังคับให้เจ้าหน้าที่ต้องฉีดวัคซีน
นายเดนิส แมคโดนัฟ รัฐมนตรีกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกประกาศว่า คำสั่งดังกล่าวจะกำหนดให้บุคลากรของกระทรวงฯ ต้องฉีดวัคซีนครบทั้งสองโดส ซึ่งคำสั่งดังกล่าวครอบคลุมแพทย์, ทันตแพทย์, นักบำบัดโรคเท้า, ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านสายตา, พยาบาลที่ได้รับการขึ้นทะเบียน, ผู้ช่วยแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่ม ซึ่งทำงานในสถานพยาบาลขององค์การทหารผ่านศึก (VHA) ต้องออกตรวจเยี่ยมในสถานที่ดังกล่าว หรือเป็นผู้ดูแลทหารผ่านศึกโดยตรง"
"เรากำลังจัดหาวัคซีนให้เพียงพอสำหรับพนักงานในอยู่ในมาตรา 38 (Title 38 employees) ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ช่วยให้ทหารผ่านศึกปลอดภัย โดยเฉพาะจากไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดไปทั่วประเทศ" นายแมคโดนัฟระบุในแถลงการณ์
"เมื่อใดก็ตามที่ทหารผ่านศึกหรือเจ้าหน้าที่ก้าวเข้ามาในหน่วยงานของกระทรวง พวกเขาควรที่จะได้ทราบว่า เราทำทุกวิถีทางตามขอบเขตเพื่อป้องกันพวกเขาจากโควิด-19 ด้วยคำสั่งดังกล่าวนี้ เราจะสามารถปฏิบัติตามและรักษาคำมั่นที่ให้ไว้ได้" เขากล่าวเพิ่มเติม
ด้านหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ซึ่งรายงานข่าวดังกล่าวเป็นสื่อแรกเผยว่า นายแมคโดนัฟระบุว่า เจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ มีเวลาแปดสัปดาห์ในการฉีดวัคซีน โดยเริ่มนับตั้งแต่วันพุธนี้ (28 ก.ค.) หากไม่เช่นนั้นจะถูกลงโทษ ซึ่งอาจรวมถึงการให้ออกจากการปฏิบัติงานในกระทรวงฯ
กระทรวงฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากโควิด 4 รายเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ยืนยันถึงกฎระเบียบใหม่ดังกล่าวหลังได้รับคำถามถึงประเด็นนี้ ระหว่างประชุมกับนายกรัฐมนตรีอิรัก โดยปธน.ไบเดนกล่าวว่า "ใช่แล้ว ตอนนี้กระทรวงฯ กำลังให้หมอในสังกัดทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีน"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกเป็นหนึ่งในหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐที่มีเจ้าหน้าที่มากที่สุด และมีระบบดูแลสุขภาพแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเพื่อให้บริการทหารผ่านศึกที่ขึ้นทะเบียนกว่า 9 ล้านคน