รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนอนุมัติให้มีการขายปืนใหญ่ให้กับไต้หวันเป็นครั้งแรก ซึ่งคาดว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจ
กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐเห็นชอบให้ขายปืนใหญ่ฮาววิตเซอร์รุ่น M109 ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้ของบริษัท BAE Systems จำนวน 40 กระบอกและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งรวมถึงเครื่องมือ 1,698 ชุดที่สามารถแปลงกระสุนปืนใหญ่ธรรมดาให้กลายเป็นกระสุนนำวิถีได้ ทั้งนี้ ประกาศของกระทรวงระบุว่า ข้อตกลงซื้อขายดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 750 ล้านดอลลาร์
"ข้อตกลงครั้งนี้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของชาติสหรัฐ รวมถึงเศรษฐกิจและความมั่นคง ด้วยการสนับสนุนความพยายามของไต้หวันในการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย และรักษาความสามารถในการป้องกันไว้ในระดับที่สร้างความมั่นใจได้" และ "ข้อตกลงนี้จะส่งเสริมความปลอดภัยของไต้หวัน และช่วยรักษาความมั่นคงทางการเมือง, ความสมดุลของกองทัพ, เศรษฐกิจ และความเจริญก้าวหน้าในพื้นที่" กระทรวงระบุ
หลังจากประกาศข้อตกลง สภาคองเกรสของสหรัฐจะพิจารณาข้อตกลงดังกล่าวเป็นเวลา 30 วัน โดยถ้าหากสมาชิกสภาไม่เห็นด้วย ก็สามารถคัดค้านข้อตกลงซื้อขายครั้งนี้ได้ อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาข้อตกลงขายอาวุธให้กับไต้หวันส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลีกัน
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนแสดงท่าทีไม่พอใจเมื่อสหรัฐประกาศขายอาวุธให้กับไต้หวันซึ่งจีนมองว่าเป็นเพียงเมืองหนึ่งของจีนที่แยกจากแผ่นดินใหญ่
เมื่อเดือนพ.ย. 2563 จีนประกาศว่าจะตอบโต้ตามความจำเป็นและสมควรแก่เหตุ หลังรัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อนุมัติข้อตกลงขายโดรนให้กับไต้หวัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 600 ล้านดอลลาร์ โดยรัฐบาลจีนระบุว่า การกระทำดังกล่าวนับเป็นการแทรกแทรงกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรง รวมถึงเป็นการโจมตีอำนาจอธิปไตยและความมั่นคงของจีน