สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้เพิ่มขึ้นในระดับที่ทรงตัว หลังประชาชนในรัฐเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์แบบเร่งด่วนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ และนับเป็นการล็อกดาวน์ครั้งที่ 6 ของรัฐวิกตอเรีย
รัฐวิกตอเรียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11 ราย เท่ากับตัวเลขที่รายงานเมื่อวานนี้ โดยเกือบทุกรายได้ใช้เวลาสัญจรไปมาในชุมชนขณะที่ติดเชื้อแล้ว
ทั้งนี้ รัฐวิกตอเรียเข้าสู่การล็อกดาวน์เป็นครั้งที่ 6 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (5 ส.ค.) หลังสิ้นสุดการล็อกดาวน์ครั้งก่อนไม่กี่สัปดาห์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ในรัฐพยายามเร่งสกัดการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยมาตรการล็อกดาวน์รอบปัจจุบันจะสิ้นสุดในวันที่ 12 ส.ค.
ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียได้พยายามควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งนำไปสู่การล็อกดาวน์เมืองใหญ่หลายแห่ง อาทิ ซิดนีย์, บริสเบน และแอดิเลด เมื่อเร็วๆ นี้
เจ้าหน้าที่รายงานพบผู้ติดเชื้อจากในชุมชนที่เมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์เพิ่มขึ้น 4 รายในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรกที่สิ้นสุดการบังคับใช้มาตรการให้ประชาชนในเมืองอยู่แต่ภายในบ้าน อย่างไรก็ดี มาตรการล็อกดาวน์ที่ประกาศมาหลายครั้งได้สร้างความไม่พอใจให้ชาวออสเตรเลีย ขณะที่มีประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้ว 22% เท่านั้น
ด้านนายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า โดยหนังสือพิมพ์ดิออสเตรเลียนรายงานว่า คะแนนความนิยมของนายมอร์ริสันร่วงลงต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาด