กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า นายเจย์ วาย. ลี หรือนายลี แจยง รองประธานบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และทายาทของซัมซุง กรุ๊ป จะได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดแบบมีทัณฑ์บน โดยคาดว่านายลีจะออกจากเรือนจำในวันศุกร์นี้ (13 ส.ค.)
แถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมระบุว่า "การตัดสินใจให้นายเจย์ วาย. ลี ออกจากเรือนจำนั้นเกิดขึ้น หลังมีการพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบด้าน ทั้งความคิดเห็นของสาธารณชนและความประพฤติที่ดีของนายลีระหว่างถูกคุมขัง"
ทั้งนี้ นายลีวัย 53 ปี ถูกพิพากษาว่ามีความผิดจริงในข้อหาติดสินบนนางชเว ซุน-ซิล คนสนิทของอดีตประธานาธิบดีปาร์ค กึน เฮ เพื่อให้รัฐบาลสนับสนุนแผนการสืบทอดอำนาจในซัมซุง กรุ๊ป โดยนายลีรับโทษจำคุกแล้วเป็นเวลา 18 เดือนจากทั้งหมด 2 ปีครึ่ง (30 เดือน) หลังศาลพิจารณาลดโทษ โดยก่อนหน้านั้น เมื่อเดือนส.ค. 2560 ศาลมีคำตัดสินให้จำคุกนายลีเป็นเวลา 5 ปี ก่อนที่จะลดโทษดังกล่าวลงมาเหลือจำคุก 2 ปีครึ่ง จนกระทั่งศาลมีคำสั่งปล่อยตัวนายลีในการพิจารณาคดีในเดือนก.พ. 2562 หลังจากที่เขาถูกคุมขังมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี และเมื่อเดือนม.ค.ปีนี้ นายลีได้ถูกส่งตัวไปคุมขังอีกครั้ง หลังตัดสินใจไม่ยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน
ทั้งนี้ การปล่อยตัวนายลีโดยมีทัณฑ์บนได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้นทั้งจากฝั่งสาธารณชนและการเมือง รวมถึงภาคธุรกิจในวงกว้าง ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของซัมซุงนั้นจะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้
แม้ว่าการดำเนินธุรกิจตามปกติของซัมซุงนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบในช่วงที่นายลีไม่อยู่ก็ตาม แต่แหล่งข่าวของบริษัทระบุว่า การตัดสินใจเรื่องการลงทุนขนาดใหญ่ๆ รวมถึงโครงการการควบรวมและการซื้อกิจการควรให้นายลีเป็นผู้ตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่องการสร้างโรงงานผลิตลอจิกชิป (logic chip) ในสหรัฐ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งกำลังรอการตัดสินใจของนายลี ขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาชิปขาดแคลน และคู่แข่งอย่างบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดัคเตอร์ แมนูแฟคเจอริง โค (TSMC) และอินเทล คอร์ป ต่างเร่งลงทุนขนานใหญ่