องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้มีการระดมเงินทุนมูลค่า 7.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นงบประมาณเร่งด่วนที่จำเป็นต้องใช้ในการจัดหาวัคซีน ออกซิเจน และความช่วยเหลือทางการแพทย์ เพื่อช่วยให้ประเทศรายได้น้อยสามารถผ่านพ้นวิกฤตการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
"งบประมาณดังกล่าวจะนำไปใช้ในโครงการส่งเสริมการเข้าถึงเครื่องมือในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 (Access to Covid-19 Tools - ACT) ของ WHO ซึ่งจะส่งมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นไปทั่วโลกเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 " ดร.บรูซ ไอล์วาร์ด ที่ปรึกษาอาวุโสของผู้อำนวยการใหญ่ WHO ชี้แจงต่อข้อซักถามของเจ้าหน้าที่ WHO ในระหว่างการไลฟ์สด
ดร.ไอล์วาร์ดกล่าวว่า งบประมารณดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อนำไปใช้อุดหนุนโครงการวงเงิน 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ยังขาดแคลนอยู่บางส่วน ทำให้ WHO ไม่สามารถต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ในประเทศกำลังพัฒนาที่เข้าถึงวัคซีนได้ต่ำหรือยังเข้าไม่ถึงเลย
ดร.ไอล์วาร์ดระบุว่า ประชาชนในประเทศยากจนไม่สามารถเข้าถึงชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้เมื่อมีอาการไข้หรืออาการอื่นๆ เพื่อที่จะทราบว่าเป็นอาการของโควิด-19 หรือโรคอื่นๆ เช่น มาลาเรีย, วัณโรค, ปอดบวม หรือเอชไอวี นอกจากการจัดหาวัคซีนแล้ว ดร.ไอล์วาร์ดยังกล่าวว่า งบประมาณดังกล่าวควรจะต้องครอบคลุมการตรวจหาเชื้อ, การรักษาโดยใช้เครื่องช่วยหายใจ และจัดสรรหน้ากากอนามัย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของ WHO ตั้งเป้าหมายในการระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครอบคลุมประชากรโลก 10% เป็นอย่างน้อยภายในเดือนก.ย.นี้ และเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 40% ภายในปีนี้ และให้ได้ 70% ในช่วงกลางปีหน้า ในขณะที่บางประเทศยังไม่ได้เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีน แต่ประเทศร่ำรวยอย่างสหรัฐและอิสราเอลฉีดวัคซีนให้ประชาชนในประเทศครบสองโดสแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง
"ประเทศร่ำรวยทุ่มเงินเป็นล้านล้านดอลลาร์เพื่อยับยั้งการระบาด เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้เป็นสิ่งที่บอกว่า คุณจะต้องฉีดวัคซีนให้โลกด้วย" ดร.ไอล์วาร์ดกล่าว