ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดเผยว่า กองกำลังของอัฟกานิสถานต้องปกป้องประเทศของตนเอง หลังจากกลุ่มตาลีบันได้บุกยึดหลายเมืองในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ปธน.ไบเดนแถลงต่อสื่อมวลชนว่า "เราใช้เงินไปมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เราฝึกฝนและมอบอาวุธที่ทันสมัยแก่กองกำลังอัฟกันกว่า 300,000 ราย ดังนั้นผู้นำอัฟกันต้องร่วมมือกัน" พร้อมระบุว่า "พวกเขาต้องต่อสู้เพื่อตนเอง และต่อสู้เพื่อชาติของพวกเขา"
ปธน.ไบเดนกล่าวว่า สหรัฐจะยังคงเดินหน้าให้การสนับสนุนทางอากาศแก่กองกำลังอัฟกัน ตลอดจนการสนับสนุนด้านอาหาร อุปกรณ์ เงินเดือน และการสร้างความเชื่อมั่นว่ากองทัพอากาศอัฟกันจะสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้
"เราจะรักษาคำมั่นสัญญาของเราต่อไป" ปธน.ไบเดนกล่าวเสริม พร้อมระบุว่า เขาไม่เสียใจที่ตัดสินใจถอนกำลังทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปธน.ไบเดนสั่งให้กองทัพสหรัฐยุติภารกิจในอัฟกานิสถานภายในสิ้นเดือนนี้ ขณะที่กองบัญชาการกลางของกองทัพสหรัฐกล่าวว่า การถอนกำลังทหารเสร็จสิ้นแล้วกว่า 95%
ทางด้านประธานาธิบดีโมฮัมหมัดอาชราฟ กานี ของอัฟกานิสถาน กล่าวตำหนิการถอนกำลังทหารของสหรัฐ เนื่องจากทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กลุ่มตาลีบันอ้างว่าสามารถบุกยึดเมืองฟาราห์ เมืองหลวงของจังหวัดฟาราห์ ทางตะวันตกของอัฟกานิสถาน ซึ่งนับเป็นเมืองหลวงของจังหวัดแห่งที่ 7 ที่ตกเป็นของกลุ่มตาลีบันภายในระยะเวลาไม่ถึงสัปดาห์
นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐแถลงต่อสื่อมวลชนว่า สถานการณ์ความมั่นคงในอัฟกานิสถานเป็นเรื่องที่สหรัฐกังวลอย่างยิ่ง
"สิ่งที่เราทำตลอดเวลาคือการหาทางออกจากสิ่งนี้" นายไพรซ์กล่าว พร้อมระบุว่า นายซัลเมย์ คาลิลซาดผู้แทนสหรัฐซึ่งทำหน้าที่เจรจาปรองดองกับอัฟกานิสถาน อยู่ในกรุงโดฮาเพื่อพบปะกับตัวแทนจากประเทศในภูมิภาคเพื่อแถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน