ประชากรของฮ่องกงลดลงอย่างมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากชาวฮ่องกงพากันย้ายถิ่นฐานหลังจากรัฐบาลบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งและการประท้วงต่อต้านในฮ่องกง
ข้อมูลของรัฐบาลฮ่องกงระบุว่า ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.ของปีนี้ มีประชากรย้ายถิ่นฐานออกจากฮ่องกงไปราว 89,200 คน ส่งผลให้จำนวนประชากรบนเกาะลดลง 1.2% มาอยู่ที่ 7.39 ล้านคน ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวนับรวมผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจากจีนแผ่นดินใหญ่ให้เข้ามาในฮ่องกง จำนวน 13,900 คนแล้ว รวมถึงหักลบจากการลดลงด้วยสาเหตุธรรมชาติเนื่องจากการเกิดและเสียชีวิตอีก 11,800 คนแล้ว
ทั้งนี้ ประชากรในฮ่องกงนั้นลดลงทั้งในช่วงปี 2562-63 และ 2563-64 หลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปี นอกเหนือจากการที่เศรษฐกิจของฮ่องกงประสบภาวะถดถอยเป็นประวัติการณ์เนื่องจากเหตุประท้วงทางการเมืองและโรคระบาดแล้ว รัฐบาลจีนยังได้บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว จนนำไปสู่การตั้งคำถามถึงหลักการหนึ่งประเทศ สองระบบ ซึ่งสั่นคลอนสถานะความเป็นศูนย์กลางทางการเงินของฮ่องกง
ขณะเดียวกัน พลเมืองฮ่องกงบางส่วนที่ถือหนังสือเดินทางต่างประเทศหรือมีสายสัมพันธ์ในต่างประเทศได้หาลู่ทางเพื่อย้ายถิ่นที่อยู่ใหม่ โดยเฉพาะในอังกฤษ ซึ่งเปิดโอกาสให้พลเมืองที่ถือหนังสือเดินทางสัญชาติบริติชโพ้นทะเล (British National Overseas) ยื่นขอสัญชาติอังกฤษได้เมื่อเดือนม.ค.ปีนี้ โดยข้อมูลของหน่วยงานในอังกฤษระบุว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ อังกฤษได้รับคำร้องขอดังกล่าวกว่า 34,000 รายการ และได้รับการอนุมัติแล้ว 7,200 คำร้อง
อย่างไรก็ดี เมื่อมีการสอบถามความเห็น ตัวแทนของรัฐบาลฮ่องกงได้กล่าวถึงรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการลดลงของประชากรฮ่องกงว่า "เป็นผลมาจากการเดินทางเข้า-ออกของผู้ที่อาศัยในฮ่องกงโดยมีหลายสาเหตุ รวมถึงเพื่อทำงานและศึกษาต่อ แต่โดยหลักการแล้วนั้นต่างจากการโยกย้ายถิ่นฐาน"