นายฟรานซิส คอลลินส์ ผู้อำนวยการของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) เปิดเผยว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐอาจทะลุ 200,000 รายต่อวัน เนื่องจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดในระดับสูงขึ้นมาก และยังไม่มีสัญญาณว่าใกล้แตะระดับสูงสุด
นายคอลลินส์ให้สัมภาษณ์ในรายการ Fox News Sunday ว่า "ผมคงจะรู้สึกแปลกใจ หากยอดผู้ติดเชื้อไม่ทะลุ 200,000 รายต่อวันในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า มันช่างน่าเศร้าที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า เราจะกลับมาอยู่ในจุดนั้นอีกครั้ง มันควรจะเป็นเดือนม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมา ไม่ควรจะเป็นเดือนส.ค."
นายคอลลินส์เสริมว่า "แต่เรากำลังเผชิญกับสายพันธุ์เดลตาซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสถานการณ์ที่น่าเศร้าใจที่ประชาชนกว่า 90 ล้านรายยังไม่ได้รับวัคซีน มันคือความยุ่งเหยิงที่เราเผชิญ และมันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่เราจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้"
นอกจากนี้ นายคอลลินส์ระบุว่า จำนวนเด็กที่ติดเชื้อโควิดในสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นน่าเป็นห่วงอย่างมาก พร้อมเสริมว่า มีเด็กอย่างน้อย 400 รายเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19
นายคอลลินส์กล่าวว่า "และตอนนี้ เรามีเด็กเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเกือบ 2,000 ราย หลายคนอยู่ใน ICU บางคนอายุต่ำกว่า 4 ขวบ ดังนั้น ใครก็ตามที่พยายามบอกคุณว่า อย่าไปกังวลกับเด็กเลย เพราะเด็กจะไม่ติดเชื้อไวรัส นั่นไม่มีหลักฐาน" เขาเสริมว่า "โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เด็กมีความเสี่ยงอย่างมากเช่นกัน และพวกเราทุกคนจะต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อปกป้องพวกเขา เช่นเดียวกับที่เราพยายามปกป้องทุกคน"
ทั้งนี้ เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปียังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยสหรัฐพบยอดเด็กที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เกือบ 4.3 ล้านราย เมื่อนับจนถึงวันที่ 5 ส.ค.