รัฐนิวเซาท์เวลส์เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในซิดนีย์มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะมีการล็อกดาวน์ที่ยาวนานก็ตาม พร้อมเตือนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้โรงพยาบาลต้องรับภาระงานหนักมาก
ออสเตรเลียซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศที่คุมโควิด-19 ได้ดีที่สุด กำลังเผชิญปัญหาในการควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 ระลอก 3 ที่เกิดจากโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดได้ง่าย แม้ว่าจะมีการใช้คำสั่งล็อกดาวน์กับประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศก็ตาม
นครซิดนีย์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย กลายเป็นจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดรอบล่าสุด โดยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเพิ่มอีก 452 ราย ซึ่งถือเป็นผู้ติดเชื้อใหม่วันเดียวมากสุดเป็นอันดับ 3 และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย
นางแกลดิส เบรีจิเกลียน ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า "เราคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใน 2 หรือ 3 สัปดาห์ข้างหน้าจะดีดตัวขึ้นอีก และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก"
นครซิดนีย์อยู่ภายใต้มาตรการที่เข้มงวด รวมถึงการปิดถนนบางส่วนในเมือง และเพิ่มค่าปรับท่ามกลางรายงานว่าประชาชนฝ่าฝืนคำสั่งให้อยู่ที่บ้าน
นักเศรษฐศาสตร์เกรงว่า การล็อกดาวน์อาจทำให้เศรษฐกิจมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งที่ 2 ในรอบหลายปี แม้ว่าธนาคารกลางออสเตรเลียจะพร้อมใช้นโยบายต่างๆ ตามที่รายงานการประชุมประจำเดือนส.ค.ระบุ