นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ (NATO) ได้กล่าวตำหนิรัฐบาลอัฟกานิสถานอย่างตรงไปตรงมา หลังจากกลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองประเทศอย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ
นายสโตลเทนเบิร์กแถลงต่อสื่อมวลชน ณ สำนักงานใหญ่ของ NATO ในกรุงบรัสเซลส์ว่า "ในที่สุดแล้ว ผู้นำทางการเมืองของอัฟกานิสถานก็ประสบกับความล้มเหลวในการยืนหยัดต่อสู้กับกลุ่มตาลิบันและในการแก้ปัญหาอย่างสันติที่ชาวอัฟกันต้องการอย่างยิ่ง"
นายสโตลเทนเบิร์กระบุว่า "แม้เราจะลงทุนและเสียสละอย่างมากในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา แต่การล่มสลายก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและฉับพลัน มีบทเรียนมากมายให้ได้เรียนรู้" พร้อมเสริมว่า "ความล้มเหลวของผู้นำอัฟกันนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่เรากำลังเป็นประจักษ์พยานอยู่ในขณะนี้"
กองทัพสหรัฐได้โค่นล้มกลุ่มตาลีบันในปี 2544 หลังจากที่กลุ่มตาลีบันให้ที่พักพิงกับนายโอซามา บิน ลาเดน และผู้นำอัลกออิดะห์รายอื่นๆ ซึ่งทำการก่อการร้ายในวันที่ 11 ก.ย.หรือ 9/11 และใน 2 ปีต่อมา กองทัพสหรัฐได้บุกอิรักเพื่อถอดถอนอำนาจของประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนของอิรักในขณะนั้น
นายสโตลเทนเบิร์กระบุว่า "ชาติพันธมิตรของ NATO ได้เดินทางไปยังอัฟกานิสถานหลังเหตุการณ์ 9/11 เพื่อป้องกันไม่ให้อัฟกานิสถานเป็นสถานที่หลบภัยสำหรับผู้ก่อการร้ายจากนานาชาติที่จะมุ่งโจมตีเรา ตลอดช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ไม่มีเหตุการณ์โจมตีของผู้ก่อการร้ายที่มาจากอัฟกานิสถานในดินแดนของชาติพันธมิตร"
นายสโตลเทนเบิร์กเสริมว่า "อัฟกานิสถานในปัจจุบันแตกต่างจากอัฟกานิสถานในปี 2544 อย่างมาก"
ทั้งนี้ ถ้อยแถลงของนายสโตลเทนเบิร์กมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากปธน.ไบเดนวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำการเมืองของอัฟกานิสถานที่ปล่อยให้กลุ่มตาลีบันยึดครองประเทศหลังการถอนกำลังของกองทัพสหรัฐและนาโต้