กลุ่มเคลื่อนไหวด้านนโยบายและการสนับสนุนสิทธิกว่า 90 กลุ่มจากทั่วโลก นำโดยศูนย์ประชาธิปไตยและเทคโนโลยี (CDT) ของสหรัฐ รวมตัวกันยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงบริษัทแอปเปิล อิงค์ เพื่อเรียกร้องให้บริษัทยกเลิกแผนการสแกนข้อความส่วนตัวของผู้ใช้ทั้งกลุ่มเยาวชนและผู้ใหญ่เพื่อตรวจหาการเผยแพร่ภาพอนาจารของเด็ก
ทั้งนี้ แคมเปญการเรียกร้องดังกล่าวเป็นการรวมตัวเรียกร้องต่อบริษัทเพียงบริษัทเดียวครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
"แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะพัฒนาขึ้นเพื่อคุ้มครองเด็กและปราบปรามการเผยแพร่ภาพอนาจารเด็ก แต่เราก็มีความกังวลว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก ตลอดจนคุกคามความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้คนทั่วโลก ซึ่งอาจส่งผลร้ายถึงขั้นหายนะแก่เด็กและเยาวชนได้" กลุ่มดังกล่าวระบุ
กลุ่มเคลื่อนไหวในต่างประเทศที่ร่วมลงชื่อในจดหมายบางรายได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเฉพาะสำหรับประเทศที่มีระบบกฎหมายแตกต่างกัน รวมถึงประเทศที่มีการทุ่มเถียงกันอย่างร้อนแรงในประเด็นการเข้ารหัสข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว
จดหมายดังกล่าวมีกลุ่มเคลื่อนไหวจากบราซิลหลายกลุ่มร่วมลงชื่อด้วย หลังจากศาลบราซิลมีคำสั่งบล็อกแอปพลิเคชัน WhatsApp ของเฟสบุ๊กอยู่หลายครั้ง เนื่องจากเฟสบุ๊กไม่ยอมถอดรหัสข้อความให้เจ้าหน้าที่ระหว่างการสืบสวนคดี นอกจากนี้ วุฒิสภาของบราซิลยังได้ผ่านกฎหมายที่กำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องทำให้ข้อความสามารถตรวจสอบที่มาได้ ซึ่งแปลว่าจะต้องมีการติดตามข้อมูลในทางใดทางหนึ่ง และก่อนหน้านี้อินเดียก็ได้ผ่านกฎหมายในลักษณะเดียวกันกับบราซิลเช่นกัน
ชารอน แบรดฟอร์ด แฟรงคลิน ผู้อำนวยการร่วมโครงการด้านความปลอดภัยและการสอดแนมของ CDT กล่าวว่า "การที่แอปเปิลตัดสินใจเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องน่าผิดหวังและน่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมาแอปเปิลเป็นฝ่ายสนับสนุนการเข้ารหัสข้อมูลอย่างเต็มที่มาโดยตลอด"
ด้านโฆษกของแอปเปิลระบุว่า บริษัทได้ชี้แจงประเด็นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยแล้วในประกาศที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 13 ส.ค. โดยให้เหตุผลว่า โครงสร้างที่ซับซ้อนของแอปพลิเคชันที่แอปเปิลจะใช้สแกนข้อความนั้น จะสามารถป้องกันการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในทางที่ผิดได้