ชุมชนข่าวกรองของสหรัฐประสบความล้มเหลวในการระบุถึงต้นกำเนิดที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดของไวรัสโควิด-19 หลังจากที่ทำการสอบสวนเพิ่มเติม โดยได้เปิดเผยในวันศุกร์ (27 ส.ค.) ว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ไวรัสโควิด-19 เกิดจากการสัมผัสของมนุษย์กับสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือเกิดจากการทดลองในห้องปฏิบัติการ
สำนักงานผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐระบุในรายงานว่า ทุกหน่วยงานประเมินว่าสมมติฐานสองข้อเกี่ยวกับต้นตอของไวรัสนั้นมีความเป็นไปได้ทั้งการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อตามธรรมชาติ และเกิดจากห้องปฏิบัติการ ขณะที่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ไวรัสดังกล่าวได้ถูกพัฒนาเป็นอาวุธชีวภาพ
ชุมชนข่าวกรองระบุว่า พวกเขาไม่สามารถให้คำอธิบายที่ชัดเจนมากไปกว่านี้ได้ หากไม่มีข้อมูลใหม่ เช่น ห้องปฏิบัติการในเมืองอู่ฮั่นในภาคกลางของจีนซึ่งตรวจพบการระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นครั้งแรกในปลายปี 2562 นั้น กำลังดำเนินการกับไวรัสดังกล่าวหรือไวรัสต้นกำเนิดอยู่หรือไม่ก่อนที่ไวรัสดังกล่าวจะเริ่มแพร่ระบาด
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนซึ่งเรียกร้องในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาให้ชุมชนข่าวกรองเพิ่มความพยายามในการตรวจสอบต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19 นั้น ได้ให้คำมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีความคิดเหมือนๆ กัน เพื่อกดดันให้จีนแบ่งปันข้อมูลอย่างเต็มที่เกี่ยวกับการอุบัติขึ้นของโรคระบาดดังกล่าวซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 4.4 ล้านคนทั่วโลก
ปธน.ไบเดนกล่าวว่า "ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับต้นตอของไวรัสโควิดนั้นอยู่ในจีน โดยตั้งแต่ต้นนั้น เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนได้พยายามที่จะปิดกั้นไม่ให้ผู้ตรวจสอบระหว่างประเทศ และสมาชิกของชุมชนสาธารณสุขระดับโลกเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้น"
"ขณะที่การทบทวนนี้สิ้นสุดลง ความพยายามของเราในการทำความเข้าใจที่มาของการแพร่ระบาดใหญ่นี้จะไม่ยุติลง เราจะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อค้นหาต้นตอของโรคระบาดนี้ซึ่งได้สร้างความเจ็บปวดและความตายมากมายทั่วโลก เพื่อให้เราสามารถดำเนินการป้องกันล่วงหน้าที่จำเป็นได้เพื่อไม่ให้โรคระบาดเกิดขึ้นอีก" ปธน.ไบเดนกล่าว