สภาสหภาพยุโรป (EU) ประกาศถอดสหรัฐออกจากรายชื่อประเทศที่ปลอดภัยด้านการเดินทาง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากสหรัฐแล้ว EU ยังได้ถอดอิสราเอล, เลบานอน, มอนเตเนโกร, มาซิโดเนียเหนือ และโคโซโว ออกจากรายชื่อประเทศและเขตแดนปลอดภัยสำหรับการเดินทางโดยไม่มีเหตุจำเป็น
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเมื่อช่วงเดือนมิ.ย. ที่ EU กำหนดให้สหรัฐอยู่ในกลุ่มประเทศปลอดภัยก่อนจะเข้าช่วงเทศกาลวันหยุดหน้าร้อน
ทั้งนี้ EU ได้ออกแถลงการณ์แนะนำให้ประเทศสมาชิก EU จำกัดการเดินทางของผู้ที่มาจากสหรัฐ เนื่องจากในสหรัฐมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 977,947 ราย และผู้เสียชีวิต 7,394 ราย ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เป็นจำนวนที่สูงที่สุดในโลก
คำแนะนำดังกล่าวไม่มีผลผูกมัดใดๆ แต่ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศและเขตแดนเหล่านี้อาจถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดขึ้น รวมถึงมีข้อจำกัดมากขึ้นเมื่อเดินทางมายังยุโรป เช่น ต้องถูกบังคับให้กักตัว
"คำแนะนำนี้ไม่ส่งผลต่อการที่ประเทศสมาชิกยกเว้นข้อจำกัดให้ผู้ที่เดินทางโดยไม่มีเหตุจำเป็น ในกรณีที่ผู้ที่เดินทางนั้นฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว" แถลงการณ์ระบุ
สำหรับรายชื่อประเทศปลอดภัยล่าสุดที่กำหนดโดย EU ได้แก่ แอลเบเนีย, อาร์เมเนีย, ออสเตรเลีย, อาเซอร์ไบจาน, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, บรูไน, แคนาดา, ญี่ปุ่น, จอร์แดน, นิวซีแลนด์, กาตาร์, มอลโดวา, ซาอุดีอาระเบีย, เซอร์เบีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ยูเครน และจีน (ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่า จีนจะอนุญาตให้ผู้ที่มาจาก EU เดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่มีข้อจำกัดหรือไม่)