เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P Global Ratings) ประกาศเตือนว่า นโยบายของจีนที่มุ่งควบคุมให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศให้เป็นศูนย์ (Zero-Covid) อาจทำให้ปัญหาหนี้สินของผู้ประกอบการยิ่งย่ำแย่ลง หลังจากผู้ประกอบการบางส่วนต้องประสบปัญหาด้านการเงินอยู่แล้ว
S&P ระบุว่า การแพร่ระบาดครั้งใหม่ของโควิด-19 ประกอบกับนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลจีนจะยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับบรรดาบริษัทเอกชน หากยังมีใช้มาตรการจำกัดการเดินทางและมาตรการควบคุมที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างเช่นนี้
"การแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งล่าสุดในจีนเกิดขึ้นในขณะที่วิสาหกิจในจีนต้องเผชิญความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น" และ "การกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น, กระแสเงินสดที่อ่อนแรงลง, สภาพคล่องที่มีความตึงตัวขึ้น และสภาพทางการเงินที่มีความผันผวนสูง ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบ ทั้งยังเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและการตรวจสอบที่เข้มงวดของรัฐบาล" รายงานของ S&P ระบุ
เว็บไซต์ Our World in Data ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนพุ่งสูงขึ้นในเดือนก.ค.-ส.ค. โดยทำสถิติสูงสุดที่เฉลี่ยวันละกว่า 110 รายในช่วงเวลา 7 วันในเดือนส.ค.
ถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในจีนจะต่ำกว่าประเทศผู้นำเศรษฐกิจรายอื่นๆ แต่จีนก็ส่งสัญญาณชัดเจนว่า จะใช้มาตรการควบคุมเข้มงวดเมื่อยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม
เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนสั่งปิดท่าเรือหนิงโป-โจวซาน ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่มีเรือเข้าออกมากที่สุดในโลก หลังจากพบพนักงานติดเชื้อโควิด-19 เพียง 1 ราย นอกจากนี้ ในเดือนมิ.ย. จีนยังสั่งปิดศูนย์กลางการขนส่งอย่างท่าเรือเซินเจิ้นและท่าเรือกวางโจวจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่จีนมีคำสั่งปิดท่าเรือเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส