รัฐบาลมาเลเซียแถลงในวันนี้ว่า KPMG ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลก ได้ตกลงยอมจ่ายเงินจำนวน 333 ล้านริงกิต (80.11 ล้านดอลลาร์) หรือราว 2,600 ล้านบาทแก่รัฐบาลมาเลเซีย เพื่อยุติคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ของ KPMG ในการตรวจสอบบัญชีกองทุน 1MDB ในระหว่างปี 2553-2555
กระทรวงการคลังมาเลเซียออกแถลงการณ์ระบุว่า การบรรลุข้อตกลงไกล่เกลี่ยคดีดังกล่าวจะส่งผลให้รัฐบาลยุติการดำเนินคดีต่อ KPMG ที่มีการยื่นฟ้องในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ รัฐบาลของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้จัดตั้งกองทุน 1MDB วงเงิน 6,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2552 โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของมาเลเซีย
อย่างไรก็ดี กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของมาเลเซียได้ยักยอกเงินราว 4,500 ล้านดอลลาร์จากกองทุน 1MDB ในระหว่างปี 2552-2557
นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐออกแถลงการณ์ในเดือนต.ค.2563 ระบุว่า โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ ยินยอมจ่ายค่าปรับเป็นเงินเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 90,000 ล้านบาท ให้แก่หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อยุติคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับกองทุน 1MDB
"โกลด์แมน แซคส์ได้ยอมรับผิดชอบเกี่ยวกับบทบาทของทางธนาคารในการสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่ในต่างประเทศเพื่อให้ได้รับธุรกิจการทำอันเดอร์ไรท์และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกองทุน 1MDB" แถลงการณ์ระบุ
ในเดือนก.ค.2563 โกลด์แมน แซคส์ทำข้อตกลงวงเงิน 3,900 ล้านดอลลาร์กับรัฐบาลมาเลเซียเพื่อยุติคดีที่เกี่ยวข้องกับกองทุน 1MDB โดยโกลด์แมน แซคส์ยินยอมจ่ายเงิน 2,500 ล้านดอลลาร์ให้แก่รัฐบาล รวมทั้งให้สัญญาว่ารัฐบาลจะได้รับเงินอย่างน้อย 1,400 ล้านดอลลาร์จากการขายสินทรัพย์ที่ถูกยึด
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ มาเลเซีย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของโกลด์แมน แซคส์ ออกแถลงการณ์ยอมรับผิดตามข้อกล่าวหาของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐที่ระบุว่า ทางบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องในการยักยอกเงินจากกองทุน 1MDB