บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจากการทดลองทางการแพทย์ในสหรัฐเมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) ระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัท มีประสิทธิภาพ 74% ในการป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการสำหรับคนทั่วไป และสูงถึง 83.5% สำหรับกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยมีการเก็บข้อมูลจากอาสาสมัครกว่า 26,000 ในสหรัฐ ชิลี และเปรูที่ได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าครบทั้ง 2 โดส โดยเว้นระยะเวลา 1 เดือนระหว่างโดส
ผลการทดลองที่เผยแพร่ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ (NEJM) พบว่า ในบรรดาผู้เข้าร่วมทดลองกว่า 17,600 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบแสดงอาการหนักหรือเข้าขั้นวิกฤตเลย เทียบกับที่มีการพบ 8 รายในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนหลอกจำนวน 8,500 คน นอกจากนี้ กลุ่มที่ได้รับวัคซีนหลอกยังมีผู้เสียชีวิต 2 ราย แต่กลุ่มที่ได้รับวัคซีนจริงนั้นไม่มีผู้เสียชีวิตเลย
อย่างไรก็ดี ประสิทธิภาพโดยรวมที่ระดับ 74% ก็ยังคงต่ำกว่าระดับ 79% ที่ระบุในรายงานเบื้องต้นของแอสตร้าเซนเนก้าเมื่อช่วงมี.ค.ที่ผ่านมา โดยบริษัทได้แก้ไขตัวเลขเป็น 76% หลังจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายรายออกมาท้วงติงว่า ตัวเลขประสิทธิภาพ 79% นั้นมาจากข้อมูลที่ไม่เป็นปัจจุบัน
ดร.แอนนา เดอร์บิน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮ็อปกินส์ ผู้ตรวจสอบผลการทดลองเปิดเผยว่า เธอรู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์ของการทดลองโดยรวม และระบุว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า สามารถป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการหนักและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล