บริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า ทางบริษัทจะเข้าซื้อกิจการบริษัท Acceleron Pharma Inc ด้วยวงเงิน 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์
เมอร์คระบุว่า การเข้าซื้อกิจการของ Acceleron จะทำให้บริษัทมีกรรมสิทธิ์ในยาที่ใช้รักษาโรคที่หายาก โดย Acceleron มีความเชี่ยวชาญในการผลิตยารักษาหลอดเลือดหัวใจ รวมทั้งอาการผิดปกติอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับโลหิต
นอกจากนี้ Acceleron กำลังอยู่ในระหว่างการทดลองระยะสุดท้ายสำหรับยา Sotatercept ซึ่งเป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจที่เกิดขึ้นได้ยาก โดยทำให้เกิดภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง (PAH)
ทั้งนี้ การรักษาโรคที่หายากถือเป็นตลาดที่ทำเงินมหาศาลสำหรับบริษัทผลิตยา เนื่องจากผู้ผลิตสามารถตั้งราคาในระดับสูงสำหรับยาที่ใช้รักษาโรคเฉพาะทางดังกล่าว
มีการคาดการณ์กันว่า ตลาด PAH จะมีการขยายตัว 5% ต่อปีนับตั้งแต่ปี 2562-2572
แถลงการณ์ของเมอร์คในวันนี้มีขึ้น หลังจากที่เมื่อวานนี้บริษัทเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการทดลองยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ซึ่งเป็นยาเม็ดสำหรับรักษาโรคโควิด-19
ทั้งนี้ เมอร์คระบุว่า ผลการทดลองพบว่า โมลนูพิราเวียร์มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโควิด-19 หลายสายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์เดลตา
นายเจย์ โกรเบลอร์ หัวหน้าฝ่ายวัคซีนและโรคติดเชื้อของเมอร์ค กล่าวว่า เนื่องจากยาโมลนูพิราเวียร์ไม่ได้เล็งเป้าหมายไปที่โปรตีนหนามของไวรัสโควิด-19 ซึ่งแตกต่างจากวัคซีนโควิด-19 ทั่วๆไป จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการยับยั้งไวรัสโควิด-19 แม้ว่าจะมีการกลายพันธุ์ก็ตาม
ทั้งนี้ ยาโมลนูพิราเวียร์จะเล็งเป้าหมายไปที่ viral polymerase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีความจำเป็นต่อไวรัสโควิด-19 ในการคัดลอกตัวเองเพื่อแพร่กระจายออกไป โดยยาโมลนูพิราเวียร์จะทำให้รหัสพันธุกรรมของไวรัสเกิดความผิดพลาดจนไม่สามารถขยายจำนวนมากขึ้น
ผลการศึกษาพบว่ายาโมลนูพิราเวียร์จะมีประสิทธิภาพมากที่สุด หากผู้ป่วยได้รับยาในช่วงแรกของการติดเชื้อ
ขณะนี้เมอร์คกำลังทดลองยาโมลนูพิราเวียร์ร่วมกับบริษัท Ridgeback Biotherapeutics ซึ่งเป็นการทดลองในระยะที่ 3 โดยแบ่งเป็นการทดลองยารักษาและป้องกันอาการของโรคโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงต้นเดือนพ.ย.