องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 กำลังจะเสียชีวิตไปอย่างสูญเปล่า โดยระบุถึงความไม่เท่าเทียมกันในการกระจายวัคซีนทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชน
"การไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้นั้นเป็นเรื่องที่บั่นทอนจิตใจ จะเรียกว่ายิ่งกว่าบั่นทอนจิตใจก็ได้ มันยิ่งกว่าสิ้นหวัง จนไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาอธิบาย ดิฉันขอบอกเลยว่า หากเราใช้วัคซีนกว่า 6 พันล้านโดสต่างไปจากในปัจจุบัน สถานการณ์จะไม่เป็นอย่างในตอนนี้เลย" แพทย์หญิงมาเรีย แวน เคอร์คอฟ หัวหน้าด้านเทคนิคของ WHO ด้านการรับมือโควิด-19 กล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของ WHO ชี้แจงในช่วงการตอบคำถามขณะไลฟ์สดทางโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่า ประเทศต่าง ๆ จำนวน 56 แห่งยังห่างไกลจากเป้าหมายการฉีดวัคซีนที่ WHO กำหนดไว้ว่าจะต้องฉีดให้ครอบคลุมประชากร 10% ภายในสิ้นเดือนก.ย. ขณะที่แพทย์หญิงมาเรียระบุว่า การเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากโรคโควิด-19 ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดทั่วโลกใกล้แตะ 5 ล้านคนแล้ว
นอกจากนี้ แพทย์หญิงมาเรียยังระบุว่า ข้อมูลของวัคซีนโควิด-19 แสดงให้เห็นชัดเจนว่า วัคซีนมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการป่วยจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล รวมถึงการเสียชีวิต
"เพียงแค่กระจายวัคซีนให้เข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น ผลจากการกระจายวัคซีนไม่ทั่วถึงคือ ผู้คนจะเสียชีวิตไปอย่างสูญเปล่า" แพทย์หญิงมาเรียกล่าว
ความเห็นของแพทย์หญิงมาเรียสอดคล้องกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่การแพทย์ในสหรัฐระบุว่า ผู้ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 เกือบทุกรายที่เก็บสถิติในสหรัฐนั้นเป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐรายงานเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ว่า ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนมีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากโควิดมากกว่าผู้ที่ฉีดแล้วถึง 11 เท่า และมีแนวโน้มที่จะต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลจากอาการป่วยเพิ่มขึ้น 10 เท่า รวมถึงมีโอกาสติดเชื้อได้มากกว่าราว 4.5 เท่า