นายไมเคิล บาร์เน็ตต์ ซีอีโอหอการค้าโอ๊คแลนด์ เปิดเผยในวันนี้ว่า วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) หลายหมื่นรายในเมืองโอ๊คแลนด์ของนิวซีแลนด์รู้สึกเจ็บปวดและคับข้องใจที่รัฐไม่มีแผนยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในการควบคุมโรคโควิด-19 ที่ชัดเจน และรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ผลการสำรวจเผยให้เห็นว่า เจ้าของ SME ราว 90% สูญเสียเงินทุนไปจำนวนมาก โดยเกือบ 50% ขาดทุนเกิน 100,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (72,060 ดอลลาร์สหรัฐ) และ 75% เพิ่มทุนชดเชยส่วนที่ขาดและส่วนที่ต้องใช้ดำเนินงานประจำวันด้วยการยืดเวลาชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือใช้เงินเก็บส่วนตัว "นี่คือเรื่องสำคัญและเป็นความเดือดร้อนของเจ้าของธุรกิจ พวกเขาได้อุทิศชีวิตเพื่อสร้างธุรกิจเลี้ยงปากท้องของตัวเอง ของพนักงาน และของชุมชน สำหรับหลาย ๆ คนแล้ว การล็อกดาวน์อันไม่มีที่สิ้นสุดนี้จะทำให้เงินเก็บยามเกษียณต้องร่อยหรอและก่อหนี้ครัวเรือนที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมี" นายบาร์เน็ตต์กล่าว นายบาร์เน็ตต์กล่าวว่า บรรดาเจ้าของธุรกิจต้องการทราบรายละเอียดแผนฟื้นฟูที่มีการสนับสนุนทางธุรกิจอย่างมืออาชีพ การให้คำปรึกษา การสนับสนุนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ และการสนับสนุนด้านกฎหมายเพื่อออกคำสั่งให้พนักงานต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ต.ค.) ว่า โอ๊คแลนด์และเขตไวกาโตจะยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 3 ไปอีก 2 สัปดาห์ ขณะที่พื้นที่ส่วนอื่นของประเทศจะอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 2