สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ "เดลตา พลัส" ซึ่งนักวิทยาศาสตร์บางรายระบุว่า อาจแพร่ระบาดได้มากกว่าไวรัสสายพันธุ์เดลตาเดิมที่สามารถแพร่กระจายได้ในระดับสูงอยู่แล้ว
ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา พลัส ซึ่งเรียกอย่างเป็นทางการว่า AY.4.2 นั้น เป็นการกลายพันธุ์ใหม่ของสไปค์โปรตีน A222V และ Y145H
ฟรังซัวส์ แบลูซ์ ผู้อำนวยการสถาบันพันธุศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอนระบุว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา พลัส อาจแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์เดลตาเดิมราว 10-15%
กระทรวงสาธารณสุขของอินเดียเปิดเผยในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา พลัส สามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์เดลตาเดิม โดยเดลตา พลัสสามารถจับกับเซลล์ปอดได้อย่างแน่นหนามากกว่า และอาจลดประสิทธิภาพของการรักษาด้วยโมโนโคลนอล แอนติบอดี
ดร.โรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า การกลายพันธุ์ดังกล่าวถูกตรวจพบในสหรัฐ แต่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา พลัส เพิ่มขึ้นอย่างมากทั่วประเทศ
"เราจะเฝ้าติดตามโดยเฉพาะอย่างยิ่งไวรัสสายพันธุ์ย่อยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการรักษา เช่น โมโนโคลนอล แอนติบอดี และวัคซีน" ดร.วาเลนสกีกล่าว และระบุเสริมว่า "ในขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์ย่อย AY.4.2 ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีนหรือการรักษาโรคโควิด-19 ของเราในปัจจุบัน"