หน่วยข่าวกรองสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ (29 ต.ค.) ว่า อาจไม่สามารถระบุต้นตอของไวรัสโควิด-19 ได้ ขณะที่ได้เปิดเผยรายงานฉบับใหม่ที่มีรายละเอียดเพิ่มขึ้นในการทบทวนว่าไวรัสโควิด-19 นั้นแพร่ระบาดจากสัตว์สู่คน หรือรั่วไหลออกมาจากห้องแล็บ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สำนักงานผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ (ODNI) ได้ระบุในรายงานว่า ต้นกำเนิดตามธรรมชาติและการรั่วไหลออกจากห้องแล็บเป็นสมมติฐานที่เป็นไปได้ทั้งสองประการที่ทำให้มนุษย์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งแรก แต่บรรดานักวิเคราะห์ก็ไม่เห็นด้วยที่จะระบุว่า สมมติฐานใดมีแนวโน้มมากกว่า หรือสามารถที่จะประเมินชี้ขาดว่าไวรัสเกิดจากสมมติฐานใด
รายงานดังกล่าวยังได้ปฏิเสธความเห็นที่ว่า ไวรัสโควิด-19 เกิดจากอาวุธชีวภาพ โดยระบุว่าผู้ที่สนับสนุนทฤษฎีนี้ไม่ได้เข้าถึงสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นโดยตรง และได้ถูกกล่าวหาว่าทำการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวซึ่งเปิดเผยในวันศุกร์เป็นฉบับเพิ่มเติมจากรายงานทบทวนระยะ 90 วันที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้เปิดเผยในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมืองอย่างดุเดือดเกี่ยวกับการตำหนิจีนสำหรับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปทั่วโลก มากกว่าที่จะตำหนิรัฐบาลต่าง ๆ ที่อาจไม่ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพียงพอที่จะปกป้องพลเมืองของตน
ด้านจีนได้ออกมาตอบโต้ในวันศุกร์ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์รายงานดังกล่าว โดยนายหลิว เผิงหยู โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันระบุในแถลงการณ์ว่า การที่สหรัฐพึ่งพาเครื่องมือด้านข่าวกรองแทนนักวิทยาศาสตร์ในการติดตามต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19 นั้น นับเป็นเรื่องตลกทางการเมืองโดยแท้จริง
"เป็นการบ่อนทำลายการศึกษาต้นกำเนิดโดยอิงกับหลักวิทยาศาสตร์ และขัดขวางความพยายามระดับโลกในการค้นหาแหล่งที่มาของไวรัส" แถลงการณ์ของจีนระบุ