นายแพทย์ฮานส์ คลูจ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคยุโรป สังกัดองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ยุโรปกำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ฟื้นตัวขึ้นจนอยู่ในระดับที่น่ากังวล โดยเขาเตือนว่า ยุโรปได้กลายเป็น "จุดศูนย์กลางของโรคระบาด" อีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ นายคลูจระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเขากล่าวที่การแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) ว่า "วันนี้ ทุก ๆ ประเทศในยุโรปและเอเชียกลางกำลังเผชิญภัยคุกคามจากการฟื้นตัวของโควิด-19 อย่างแท้จริง หรือกำลังต่อสู้กับสิ่งนี้แล้ว โดยสถานการณ์ล่าสุดใน 53 ประเทศนับเป็นเรื่องน่ากังวลใจอย่างยิ่ง"
ย้อนไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งขึ้นเกือบแตะที่ระดับ 1.8 ล้านคน ขณะยอดผู้เสียชีวิตใหม่อยู่ที่ราว 24,000 คน ส่วนประเทศสมาชิกของ WHO ในยุโรปและเอเชียกลางมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 6% และยอดการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 12% เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อในยุโรปและเอเชียกลางคิดเป็น 59% ของยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก และส่วนยอดผู้เสียชีวิตคิดเป็นสัดส่วน 48% ของจำนวนทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นายคลูจได้ระบุว่า หากสถานการณ์โรคระบาดของภูมิภาคดังกล่าวยังคงดำเนินไปในลักษณะนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อีก 500,000 คนในภูมิภาคภายในเดือนก.พ.ปี 2565 และ 43 ประเทศในภูมิภาคจะเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากปัญหาเตียงผู้ป่วยขาดแคลน
ส่วนทางออกของปัญหานี้ เขาได้แสดงทัศนะเอาไว้ว่า "เราต้องเปลี่ยนยุทธวิธีจากการตอบสนองต่อการทะยานขึ้นของโควิด-19 เป็นการป้องกันมิให้เกิดการติดเชื้อตั้งแต่แรก"
สำหรับเหตุผล 2 ประการหลักที่นายคลูจมองว่าเป็นต้นตอของการทะยานขึ้นของผู้ติดเชื้อในยุโรป คือการฉีดวัคซีนที่ไม่เพียงพอ และการผ่อนปรนมาตรการด้านสาธารณสุขและสังคม