ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสประกาศเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น (09 พ.ย.) ว่า รัฐบาลจะเลื่อนการผ่อนปรนมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากฝรั่งเศสกำลังประสบกับการระบาดระลอกที่ 5 โดยเขาเตือนว่า "เรายังไม่หลุดพ้นจากโรคระบาดนี้"
ทั้งนี้ ปธน.มาครงระบุว่า รัฐบาลควรใส่ใจมาตรการป้องกันทั้งหมดที่ปกป้องประชาชนจากทั้งโควิด-19 และโรคติดต่อชนิดอื่น ๆ ในช่วงฤดูหนาว โดยกล่าวว่า "เราต่างก็ผ่อนคลายความพยายามเล็กน้อยซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่เราควรเข้มงวดขึ้นอีกครั้ง"
นอกจากนี้ เขากล่าวเสริมว่าการควบคุมเอกสารรับรองสุขภาพ (Health Pass) จะต้องเข้มข้นขึ้นในสถานที่ต่างๆ รวมถึง สนามบิน, ท่าเรือและสถานีรถไฟ ขณะเดียวกันประชาชนอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปและผู้ที่มีความเปราะบางที่สุดจะต้องเข้ารับวัคซีนบูสเตอร์เพื่อต่ออายุเอกสารรับรองสุขภาพของพวกเขาตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.เป็นต้นไป
ผู้นำฝรั่งเศสยังกล่าวด้วยว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการส่งเสริมการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในเดือนธ.ค.ปี 2563 ฝรั่งเศสได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้วกว่า 100 ล้านโดสในเวลา 10 เดือน และขณะนี้ ประชาชนชาวฝรั่งเศส 51 ล้านคนได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปธน.มาครงได้เรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนบูสเตอร์หลังฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเป็นเวลา 6 เดือน โดยเขากล่าวว่า "วิธีการแก้ปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงคือการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เพิ่มเติม"