นายพอล กริฟฟิธส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทดูไบ แอร์พอร์ตส์ (Dubai Airports) ซึ่งบริหารท่าอากาศยานนานาชาติดูไบและท่าอากาศยานดูไบเวิลด์เซ็นทรัลของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจการบินยังคงประสบปัญหาอยู่ แต่ในอนาคตก็มีแนวโน้มว่าจะสามารถฟื้นตัวจากสภาพที่เป็นมาตลอด 20 เดือนที่ผ่านมาได้
"เราพอจะคาดหวังได้ว่าแนวโน้มในอนาคตของธุรกิจนี้จะเป็นไปในทิศทางที่สดใสกว่า 20 เดือนที่ผ่านมามาก" นายกริฟฟิธส์กล่าวกับผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีในงาน "ดูไบ แอร์โชว์" ที่จัดเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
นายกริฟฟิธส์เปิดเผยว่า ในปีนี้ท่าอากาศยานทั้งสองแห่งของดูไบมีผู้โดยสารเดินทางราว 20.7 ล้านคน ซึ่งน้อยกว่าระดับก่อนโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างมาก และคาดว่าจะต้องใช้เวลาถึงปี 2568 จำนวนผู้โดยสารจึงจะสามารถฟื้นตัวถึงระดับเดิมได้อีกครั้ง
อนึ่ง เมื่อปี 2562 ท่าอากาศนานาชาติดูไบให้บริการผู้โดยสารมากถึง 86.4 ล้านคน
อย่างไรก็ดี นายกริฟฟิธส์กล่าวว่า ขณะนี้มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของธุรกิจการบินหลายประการ เนื่องจากทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดต่าง ๆ และเส้นทางการบินระหว่างประเทศที่สำคัญหลายเส้นทางเริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้ง โดยในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่าอากาศนานาชาติยานดูไบมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 40%
สำหรับในช่วงปลายปีนี้ นายกริฟฟิธส์คาดการณ์ว่า ท่าอากาศยาน 2 แห่งของดูไบจะมีผู้โดยสารราว 26.7 ล้านคน ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นจนแตะระดับ 26-27 ล้านคนภายในปี 2565 นอกจากนี้ นายกริฟฟิธส์ยังคาดหวังว่า จำนวนผู้โดยสารอาจเพิ่มได้มากกว่านั้น